กองทัพบก 9 ม.ค.-รองโฆษก คสช. เผยรองเลขาธิการ คสช.ห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ สั่งการเตรียมแผนฟื้นฟูภาคใต้หลังน้ำลด กำชับเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ยันทุกอย่างยังเดินหน้าตามโรดแมป เผย 3 เดือนจากนี้จะเข้มบังคับใช้กฎหมายกับรถตู้โดยสาร
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า วันนี้ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร รองเลขาธิการ คสช.เป็นประธานการประชุมสำนักเลขาธิการ คสช. โดยได้แสดงความห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างทุ่มเท พร้อมกำชับให้ติดตามสถานการณ์ เตรียมการรับมือกับภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นในอีก 1-2 วันนี้ โดยปัจจุบันทุกภาคส่วนได้ร่วมกับศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เข้าช่วยเหลือประชาชนใน 7 จังหวัด ดูแลประชาชน 66,091 ครัวเรือน ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือด้วยการอพยพประชาชน 244 ครัวเรือน แจกจ่ายถุงยังชีพ 12,375 ถุง ตรวจสุขภาพ 879 คน บริการรถครัวสนาม 3 คัน
“รองเลขาธิการ คสช.สั่งการให้จัดเตรียมแผนฟื้นฟูบูรณะหลังน้ำลด ด้วยการสำรวจและเยียวยาซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและยานพาหนะ ปรับปรุงเส้นทางการสัญจร และระบบสาธารณูปโภค รวมถึงการตรวจสอบสาเหตุของอุทกภัยในครั้งนี้ เพื่อประเมินศักยภาพของการบริหารจัดการน้ำในแต่ละพื้นที่ และวางแผนขุดลอกคูคลองเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป” รองโฆษก คสช. กล่าว
รองโฆษก คสช. กล่าวด้วยว่า รองเลขาธิการ คสช.ยังได้กำชับให้ทุกส่วนปฏิบัติตามข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ในการชี้แจงต่อสาธารณะ ยืนยันถึงการเดินหน้าประเทศว่ายังเป็นไปตามโรดแมปของ คสช. การดำเนินกิจกรรมใด ๆ ขอให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง
รองโฆษก คสช. กล่าวอีกว่า ส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลประชาชนในการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) รับผิดชอบอยู่นั้น ขณะนี้มีการปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการในเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยมีการปรับลดจุดบริการประชาชนเหลือ 6 จุด เพิ่มเจ้าหน้าที่และจิตอาสาเพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในห้วงเวลากลางคืนและนอกเวลาราชการ
รองโฆษก คสช. กล่าวด้วยว่า ส่วนปัญหาเร่งด่วนที่ คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบดำเนินการ คือ การจัดระเบียบและตรวจสอบความปลอดภัยของรถตู้โดยสารสาธารณะ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ได้ร่วมกันตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตลอดห้วง 3 เดือนจากนี้ ก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ เพื่อเตรียมให้รถตู้โดยสาธารณะมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ภายใต้มาตรการที่ภาครัฐกำหนด โดยเฉพาะการนำรถตู้เข้าจอดในสถานีขนส่ง.-สำนักข่าวไทย