กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.-มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ผ่านสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ซึ่งสภากาชาดไทยนำส่งความช่วยเหลือโดยเร่งด่วนและจนถึงการฟื้นฟูหลังเกิดภัย มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพร้อมช่วยเหลือด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ในเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
นางลดาวัลย์ กันทวงศ์ ผู้อำนวยการ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ผ่านสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย โดยมีพลโทนายแพทย์อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ เป็นผู้รับมอบ
พลโทนายแพทย์อำนาจ กล่าวว่า เงินที่ได้รับมอบจากมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนี้ จะนำไปใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 รูปแบบได้แก่ จัด “ชุดธารน้ำใจ” ซึ่งประกอบด้วย เครื่องอุปโภค บริโภค ยารักษาโรค และของใช้ที่จำเป็นที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในช่วงเวลาหนึ่ง จัด “หน่วยครัวเคลื่อนที่สภากาชาดไทย เพื่อผลิตและแจกจ่ายอาหารปรุงสุกแก่ผู้ประสบภัย ส่วนสุดท้ายคือ เป็นการฟื้นฟูบูรณะภายหลังน้ำลด โดยพื้นที่ที่สภากาชาดไทยจะส่งความช่วยเหลือ ครอบคลุมทั้ง 5 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบได้แก่ สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
นางลดาวัลย์กล่าวว่า มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับสภากาชาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญด้านการบรรเทาทุกข์ในการส่งความช่วยเหลือ โดยมั่นใจว่า สามารถนำส่งความช่วยเหลือถึงผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วซึ่งสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์แจ้งว่า ความช่วยเหลือจะถึงผู้ประสบอุทกภัยในวันพรุ่งนี้
ในปี 2566 มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้วางแผนร่วมกับสภากาชาดไทยสำหรับการบรรเทาความยากลำบากในกรณีที่เกิดภัยไว้อยู่แล้ว ด้วยการเตรียม “ชุดธารน้ำใจ” พร้อมใช้งานเมื่อเกิดเหตุประมาณ 10,000 ถุง สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์จะประสานกับหน่วยงานสภากาชาดไทยในพื้นที่เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังประชาชนที่ประสบภัยอย่างเร็วที่สุด
นอกจากนี้ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ยังได้ส่งมอบเงินสนับสนุนให้แก่เทศบาลนครยะลาส่วนหนึ่ง เพื่อใช้ดำเนินการจัดหาสิ่งของจำเป็น ทั้งการดำรงชีพ การสาธารณสุข และช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยแก่ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมเป็นการเร่งด่วน
ทั้งนี้ มูลนิธิตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อใน “พลังความร่วมมือ เพื่อสังคมที่ดีกว่า” (Partner for Better Society) จึงทำงานร่วม กับภาคีทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับคนไทย.-512- สำนักข่าวไทย