กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – ผอ.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 9 กทม. พบมีการร้องเรียนเรื่องใส่ร้ายแล้ว 3 เรื่อง ขอประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแส
หลังเปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิตั้งแต่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบว่ามีประชาชนทยอยมาตรวจสอบสิทธิและใช้สิทธิกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่ก่อนเวลาเปิดหีบ 08.00 น. พร้อมมีผู้มาสังเกตการณ์การเลือกตั้งของแต่ละพรรคการเมืองมาประจำหน่วย ภายใต้มาตรการการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด
นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ตรวจความเรียบร้อยการเปิดลงคะแนนการเลือกตั้ง ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 9 ภาพรวมทั้ง 280 หน่วย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งได้ โดย กกต.กทม. มีการประสานการทำงานกันมาตลอดเพื่อปรับแก้หากพบปัญหา ส่วนที่กังวลว่าบางหน่วยเลือกตั้งมีการจัดพื้นที่แออัด เป็นเพราะข้อจำกัดบางพื้นที่ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นหน่วยเลือกตั้ง แต่ทาง กกต. ได้ประสานหน่วยงานด้านสาธารณสุขเพื่อขอคำแนะนำ และทุกหน่วยเลือกตั้งได้กำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข
ผู้อำนวยการการเลือกตั้งยังฝากถึงผู้มาใช้สิทธิให้ทยอยมาบริเวณหน่วยเลือกตั้ง เพื่อลดความแออัด จากสถานการณ์โควิดอาจทำให้ผู้ออกมาใช้สิทธิไม่ตรงตามเป้า แต่ขอให้ทุกคนที่มีสิทธิออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และขอให้มั่นใจมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด เบื้องต้นยังไม่พบการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง คาดจะมีประชาชนมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 และจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในเวลา 22.00 น.
ขณะที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ไปตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งที่บริเวณหมวดการทางหลักสี่ ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 7 หน่วย พร้อมเผยว่า หลังเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิตั้งแต่ช่วงเช้า เหตุการณ์เป็นปกติ มีประชาชนทยอยเดินทางมาใช้สิทธิอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง กกต. ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยในเรื่องมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันมีคูหาลงคะแนนพิเศษสำหรับประชาชนที่มีอุณหภูมิเกิน หรือมีอาการต้องสงสัย
ประธาน กกต เผยว่า จนถึงขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้วทั้งหมด 3 เรื่อง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใส่ร้าย ตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ทั้งนี้ หากประชาชนพบการทุจริตหรือมีเบาะแส แจ้งเจ้าหน้าที่ กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้ง หรือ โทรได้ที่สายด่วน 1444
ประธาน กกต. ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณเรื่องการจัดการเลือกตั้งใหญ่จากรัฐบาล แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก่อนที่กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะแล้วเสร็จ ทาง กกต. ได้มีการศึกษากฎหมายไว้รองรับพร้อมทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้
ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐมีมติให้ 21 ส.ส. ผลจากการเป็นสมาชิกสภาพก่อนนั้นถือว่ามีผลทันที แต่วันที่พรรคมีมติ อะไรก็ตามขณะนี้ทางเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง อยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการให้ทั้ง 21 ส.ส.พ้นจากพรรค .-สำนักข่าวไทย
