กทม. 22 ม.ค.-นายกฯ ผลักดันตลาดท่องเที่ยวไทย เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ “ททท.” คาด Test & Go รีเทิร์น ไตรมาส 1/65 ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 4 แสนคน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินหน้าผลักดันการท่องเที่ยวไทย หลังจากรัฐบาลเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ สามารถเข้ามาเที่ยวในประเทศผ่านรูปแบบ Test & Go ได้ โดยเริ่มวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 (จากที่ระงับไปช่วงหนึ่ง เนื่องจากพบการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน) โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์สถานการณ์ด้านตลาดการท่องเที่ยวไตรมาส 1/2565 (เดือนมกราคม-มีนาคม 2565) ว่า จะมีนักท่องเที่ยวในประเทศ จำนวน 27.1 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 137,712 ล้านบาท ส่วนตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 338,645 คน สร้างรายได้ 26,065 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมการท่องเที่ยวในประเทศมีทิศทางเติบโตขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป คนไทยพร้อมเดินทางท่องเที่ยวหลังจากได้รับวัคซีน ส่วนตลาดในต่างประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวจากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศ มีกระแสที่ดี โดยความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในส่วนของความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีประชาชนมีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ 637,171 คน ยอดการจอง โรงแรมสะสม 2,004,199 ห้อง สร้างมูลค่าการใช้จ่ายผ่านโครงการทั้งสิ้น 8,888 ล้านบาท และในส่วนของโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐบาลสนับสนุนค่าแพ็คเกจท่องเที่ยว 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ยอดรวมมูลค่าการเดินทางและค่าใช้จ่ายการสะสม 227.83 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถใช้สิทธิทั้ง 2 โครงการได้ถึง 31 มกราคม 2565 ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมเดินหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ในเร็วๆ นี้ เบื้องต้นจะเพิ่มสิทธิจำนวนห้องพัก 2 ล้านสิทธิหรือห้อง โดย ททท. คาดว่า จะเริ่มให้ประชาชนจองสิทธิได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และสิ้นสุดการใช้สิทธิภายในเดือนเมษายน 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา
“รัฐบาลเดินหน้าเปิดประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเสมอว่าเศรษฐกิจต้องควบคู่กับสาธารณสุข การดำเนินทุกกิจการกิจกรรมให้ยึดมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และรัดกุม สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและภาคการท่องเที่ยวของไทย วางรากฐานไปสู่การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและยั่งยืน” นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย