พ่อตัดหางปล่อยวัดลูกชายเพี้ยนยาเผาบ้านวอด

หนองคาย 19 ม.ค. – ลูกชายเสพยาคลุ้มคลั่งเผาบ้านตัวเอง พ่อยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จะไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น หวั่นก่อเหตุซ้ำมคลั่งเผาบ้านตัวเอง พ่อยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หวั่นก่อเหตุซ้ำ


เหตุการณ์ไฟไหม้นี้เกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 116 หมู่ 7 บ้านราษฎร์สามัคคี ต.หนองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย บ้านของนายพลังโชค สมอ่อน อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ถูกนายวีระยุทธ สมอ่อน อายุ 30 ปี ลูกชาย เผาบ้านตัวเอง

นายพลังโชค เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนกับภรรยาไปทำเกษตรที่สวน มีเพียงนายวีระยุทธ ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็ก อยู่บ้านเพียงลำพัง จากนั้นมีเพื่อนบ้านไปบอกว่า ลูกชายเผาบ้านตัวเอง จึงรีบกลับมาดู เห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้าน ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ และอยู่ระหว่างการต่อเติมบ้านด้านข้าง ถูกไฟไหม้ทั้งหลัง ไม่สามารถเก็บข้าวของได้ทัน ประเมินมูลค่าเสียหายประมาณ 600,000 บาท และยิ่งรู้ว่าเป็นฝีมือลูกชายตัวเองก็ยิ่งเสียใจ


โดยนายวีระยุทธ เสพยาเสพติด พ่อแม่ตักเตือนหลายครั้ง แต่ไม่เคยฟัง ก่อนหน้านี้พ่อแม่เคยเซ้งร้านเสริมสวยที่กรุงเทพฯ ให้ทำ แต่ทำได้ไม่นานก็เลิก และกลับมาอยู่บ้าน มักจะขอเงินพ่อแม่ไปเสพยาบ้า พอขอไม่ได้ก็จะอาละวาด ด่าทอ ทำลายข้าวของ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน พ.ย.64 ก็เคยก่อเหตุจะไปเผาโรงเรียนในหมู่บ้าน แต่เผาได้เพียงเอกสารบางอย่าง และชาวบ้านช่วยกันห้ามได้ทัน ส่วนครั้งนี้ทราบว่าวันเกิดเหตุ ลูกชายได้ไปขโมยน้ำมันเบนซินที่ร้านขายของชำในหมู่บ้านมา 5 ขวด แล้วขังตัวเองอยู่ในห้องชั้นบน จากนั้นไม่นานก็จุดไฟเผาหมอน ทำให้ไฟไหม้บ้าน ชาวบ้านช่วยกันดับไฟและแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยเหลือ โดยระหว่างนั้น นายวีระยุทธได้ขังตัวเองอยู่ในห้อง เจ้าหน้าที่พาตัวออกมาได้

ทั้งนี้ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะไม่ประกันตัว ไม่ช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเกรงว่าจะออกมาก่อเหตุซ้ำ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวีระยุทธ ผู้ก่อเหตุ ในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดด้วย โดยนายวีระยุทธ เป็นผู้ที่อยู่ในบัญชีเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว เคยถูกจับกุมในข้อหาครอบครองและเสพยาเสพติด ซึ่งได้ส่งศาลพิจารณาโทษทั้งเสพและครอบครอง เป็นเวลา 2 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา และอยู่ระหว่างการบังคับคดี บำเพ็ญประโยชน์ ก็กลับมาอยู่บ้าน แต่มาก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ และจะต้องให้เจ้าของร้านขายของชำแจ้งความในข้อหาลักทรัพย์เพิ่มเติมด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก