สหรัฐอเมริกา 1 ม.ค.- สืบเนื่องจากกรณีหญิงไทยถูกทำร้ายภายในสถานีรถไฟใต้ดินที่มหานครนิวยอร์ก แม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะล่วงเลยมาแล้วนานกว่า 1 เดือน แต่จนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้
เหตุประทุษร้ายนักศึกษาหญิงคนไทยเกิดขึ้นช่วงเช้าเวลาราว 04.00 น. ของวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในสถานีรถไฟใต้ดินบริเวณสี่แยก Herald Square และถนนสาย 34 ภาพจากกล้องวงจรปิดพบ คนร้ายล็อกคอ จู่โจม และปิดตาจากด้านหลังก่อนจะลากตัวผู้เสียหายไปทำร้ายร่างกายพร้อมทั้งพยายามทำอนาจาร รวมถึงลงมือชิงทรัพย์
นักศึกษาและนักแบบไทยวัย 23 ปี ผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงครั้งนี้ พร้อมด้วยนาย Eric Parnes ทนายความ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว VOA ภาคภาษาไทย โดยต้องการเรียกร้องความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งแม้ว่าจะมีภาพหลักฐานที่ชัดเจนแต่กลับไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้
สถานีรถไฟใต้ดินบริเวณสี่แยก Herald Square และถนนสาย 34 ถือว่า ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางจากมหานครนิวยอร์กอย่างไทม์สเเควร์ ช่วงเวลาทั่วไปพื้นที่ตรงนี้จะมีผู้คนใช้บริการและสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก แต่ในช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลาเช้ามืดจึงมีผู้โดยสารบางตา และในจุดที่หญิงสาวยืนรอรถ มีเพียงเธอตัวคนเดียว
หลังจากคนร้ายหนีไปไม่นาน คนที่อยู่บริเวณนั้นได้ให้ความช่วยเหลือก่อนที่จะแจ้งตำรวจและเรียกรถพยาบาล ซึ่งเมื่อเช็กภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเป็นชายผิวสีที่แต่งกายมิดชิด ตำรวจนครนิวยอร์กเผยคลิปเหตุการณ์ต่อสาธารณชนพร้อมประกาศให้รางวัลนำจับมูลค่า 3,500 ดอลลาร์ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชังโดยเฉพาะกับคนเอเชีย
แม้ว่าวันนี้อาการบาดเจ็บทางร่างกายของหญิงสาวจะดีขึ้นแล้ว แต่เธอมองว่าถ้ากรณีนี้ไม่สามารถติดตามตัวคนร้ายได้ ทุกคนก็มีสิทธิจะถูกกระทำไม่ต่างจากเธอในอนาคต
รายงานของสำนักงานตำรวจนครนิวยอร์กระบุว่า สถิติอาชญากรรมที่เกิดขึ้นต่อชาวเอเชียในนครนิวยอร์กปี 2564 เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 360 % โดยได้รับแจ้งเหตุอย่างน้อย 129 ครั้ง ในขณะที่ปี 2563 มีการแจ้งเหตุเพียงแค่ 28 ครั้งเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย