นนทบุรี 25 พ.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ มั่นใจดึงภาครัฐและเอกชนร่วมทำ MoU ในโครงการพาณิชย์จับคู่ช่วย “หมู-ข้าว” หวังช่วยเกษตรกรลดต้นทุนดันราคาให้ปรับตัวดีขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MoU โครงการพาณิชย์จับคู่ช่วย “หมู-ข้าว” ปีการผลิต 2564/65 ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยมีหน่วยงานภาครัฐ กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์ จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันเข้ามาช่วยดูแลภาคการเกษตรอย่างบูรณาการ เป็นรูปธรรม ไปพร้อมกับยกระดับราคาข้าวให้สูงขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ดูแลเกษตรกรผู้ประกอบอาชีพปศุสัตว์ในการเลี้ยงสุกรให้สามารถลดต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะอาหารสัตว์ให้ลดลง
ทั้งนี้ โครงการพาณิชย์จับคู่ช่วย “หมู-ข้าว” จะเป็นโครงการตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมที่สุดที่นำข้าวกับหมูมาชนกันอย่างเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่าย 1.เอาข้าวมาขายทำอาหารสัตว์ในราคาที่เป็นธรรม หรือยกระดับราคาที่ดีกว่าการขายในตลาดปกติ 2.เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรสามารถนำข้าวคุณภาพอาหารสัตว์ราคาพิเศษ มาใช้ทำอาหารสุกร เพื่อลดต้นทุนการเลี้ยงสุกร เป็นโครงการที่ win-win ทั้ง 2 ฝ่าย
โครงการนี้จึงเกิดขึ้นภายใต้ความพยายามช่วยดำเนินการของกรมการค้าภายในและเป็นนโยบายที่ตนมอบให้ไปดำเนินการซึ่งจะไม่มีเฉพาะวันนี้ แต่จะมีวันต่อไปด้วย ตราบที่ราคาข้าวต้องการให้สูงขึ้น เพื่อช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้ขายข้าวราคาดีขึ้นและลดต้นทุนเลี้ยงสุกรด้วย โดยมีข้าว 2 ประเภท 1.ข้าวเปลือก ความชื้นไม่เกิน 15% ในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 8 บาท และข้าวสาร ประกอบด้วย ข้าวกล้องปลายข้าวคุณภาพอาหารสัตว์และข้าวหักความชื้นที่ไม่เกิน 15% ขายในราคากิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 11 บาท ซึ่งถือว่าช่วยลดต้นทุนมากกว่าการนำพืชเกษตรตัวอื่นมาทำอาหารสัตว์
อย่างไรก็ตาม วันนี้ การทำ MoU ทั้งหมด 50,199 ตัน เป็นโรงสี จำนวน 49,500 ตัน และสหกรณ์อีก 4 ราย จำนวน 699 ตัน รวม 50,199 ตัน มูลค่ารวม 535 ล้านบาท โดยเริ่มส่งตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 และตั้งเป้าว่าจะไม่ขายเฉพาะ 50,000 นี้ กรมการค้าภายในจะพยายามเจรจาทำให้ได้ 150,000 ตัน จะช่วยดึงราคาข้าวปลายฤดูขึ้นได้อีก โดยผู้ซื้อข้าว 5 ราย ประกอบด้วย 1.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป 2.ไทยรุ่งเรืองกิจการ จังหวัดนครปฐม 3.อาร์ เอ็ม ซี ฟาร์ม จังหวัดบุรีรัมย์ 4.จงเจริญฟาร์ม จังหวัดนครนายก 5.เกษมชัยฟาร์มกรุ๊ป จังหวัดนครปฐมเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย