ลพบุรี 25 พ.ย.- หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาเด็กชายอายุ 13 ปี 2 คนที่หนีออกจากโรงเรียนประจำในจังหวัดลพบุรี ล่าสุดมีพลเมืองดีพบเด็กทั้ง 2 คนซ่อนตัวอยู่ในท่อน้ำ ทันทีที่ครอบครัวพบหน้าเด็กชายต่างโผเข้ากอดและร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง
ภาพวินาทีที่ชาวบ้านพบเด็กชาย 2 คน หลังจากหายตัวไปนานหลายวัน โดยพลเมืองดีที่พบเห็นคือ นายยุทธนา เป่ากระโทก ชาวบ้านตำบลบ่อทอง อำเภอหนองม่วง ซึ่งขณะนั้นกำลังขี่รถกลับบ้านและแสงไฟได้สาดไปเจอเด็ก 2 คนกำลังวิ่งลงจากถนนและเข้าไปอยู่ในท่อน้ำ หน้าโรงเรียนบ่อทอง หมู่ที่ 11 ซึ่งเป็นโรงเรียนร้างที่ไม่มีการเรียนการสอน หลังเห็นเด็กทั้ง 2 คนจึงนึกขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นเด็กตามข่าวที่ปรากฏในโทรทัศน์ที่หลบหนีออกจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 33 เมื่อวันอาทิตย์ จึงจอดรถและเรียกให้ออกมาจากท่อ พร้อมโทรศัพท์แจ้งผู้นำท้องถิ่นและกู้ภัยฯ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำอาหารและน้ำดื่มมาให้กิน เนื่องจากทั้งคู่หิวโซมา 3 คืน และประสานครอบครัวมารับกลับ แต่เบื้องต้นนำส่งโรงพยาบาลหนองม่วงเพื่อตรวจร่างกาย เนื่องจากอ่อนเพลีย รวมถึงมีอาการบาดเจ็บข้อเท้าพลิก และมีบาดแผลที่เท้า
จากการสอบถาม “น้องตัวต่อ” ให้การว่าตนเองกับ “น้องเอ” เพื่อนร่วมชั้น ม.1 ตัดสินใจหนีออกจากโรงเรียนเมื่อเย็นวันที่ 21 พฤศจิกายน เพราะถูกกดดันหลายอย่าง ทั้งต้องตื่นแต่เช้าทำงานกว่าจะได้กินข้าวและได้เรียน รวมถึงมีเพื่อนรุ่นพี่คอยกลั่นแกล้ง ทำร้ายร่างกาย เข้าไปหลบซ่อนตัวในไร่อ้อยเพราะเกรงว่าจะมีคนขี่รถผ่านไปมาเห็น ก่อนหน้าเคยได้ยินเสียงแม่มาตะโกนเรียก แต่ไม่กล้าออกไป จนเวลา 04.00 น.ของวันที่ 24 พฤศจิกายน ตัดสินใจเดินข้ามถนนจากตำบลดงดินแดง ลัดเลาะข้ามเขาบ้านโพธิ์เงิน และมาถึงถนนสายบ่อทอง-ตาคลี อาศัยลูกพุทราและน้ำจากลำธารกินประทังชีวิต กระทั่งมีผู้มาพบเห็นโดยบังเอิญขณะที่ซ่อนตัวในท่อ
ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ครอบครัวของ “น้องตัวต่อ” คือคุณยาย และญาติ เดินทางมารับตัวหลังตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อย ซึ่งเมื่อยายกับหลานเห็นหน้าก็ได้โผเข้าสวมกอดและร้องไห้ หลังจากนั้นคุณยายได้พา “น้องตัวต่อ” ไปไหว้ขอบคุณทุกคนที่ห่วงใย รวมถึงคุณครูที่มาคอยให้กำลังใจ
นอกจากนี้ “น้องตัวต่อ” กับ “น้องเอ” จับมือกันระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข็นเตียงของ “น้องเอ” ผ่านมา โดย “น้องตัวต่อ” บอกว่าจะขอกลับบ้านที่อุทัยธานีเพราะคิดถึงแม่ ส่วนเรื่องโรงเรียนยังไม่ขอพูดถึงว่าจะกลับไปเรียนที่เดิมหรือไม่
สำหรับอาการบาดเจ็บของ “น้องเอ” มีบาดแผลจากถูกหนามทิ่มตำที่เท้า ซึ่งอาการอ่อนเพลีย แพทย์จึงให้รอดูอาการเพื่อรอญาติมารับ ซึ่งทราบมาว่าญาติเพิ่งเดินทางกลับไปที่จังหวัดตาก พร้อมกับครอบครัวของ “น้องตัวต่อ” เมื่อเย็นวานนี้.-สำนักข่าวไทย