ยะลา 24 พ.ย.- โซเซียลแห่ชื่นชมชายชุดผ้าโสร่ง เสื้อแขนยาว สวมหมวก (กะปีเยาะ) ชุดมาลายูมุสลิม พร้อมรถพ่วงข้าง นำดินมาถมถนนในหมู่บ้านที่เป็นหลุมเป็นบ่อโดยไม่ได้หวังผลประโยชน์ สะท้อนความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่บันนังสาเร็ง อ.เมือง จ.ยะลา
เพจ “ที่นี่จังหวัดยะลา TINEE-YALA” เผยแพร่ภาพที่ถ่ายโดยอับดุลรอนิง โต๊ะยอ พร้อมสมาชิกที่เข้ามาแสดงความเห็นและแชร์จำนวนมาก โดยข้อความว่า #ชื่นชมด้วยใจ จิตอาสาที่ไม่ต้องการผลประโยชน์และไร้ผ้าคล้องคอ
ภาพนี้สุดความประทับใจต่อชายชราคนหนึ่ง ที่อาสามาปิดหลุม ปิดบ่อกลางถนน เพื่อไม่ให้เกิดความอันตรายต่อคนสัญจรไปมา โดยชายชรารายนี้ขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง พร้อมทุกดินมาด้วยจำนวนหนึ่ง และนำพลั่วมาด้วยหนึ่งด้าม ขี่รถไปยังถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ แล้วก็จอดรถและนำพลั่วตักดินกลบบนถนนที่เป็นหลุมทันที นี่คือความจริงใจของคนหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยใช้กำลังของตัวเอง ไม่ต้องเบิกงบประมาณจากส่วนราชการใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่มีความจริงใจ ก็จะลดอุปสรรคมาได้จำนวนหนึ่ง
ภาพนี้ถ่ายโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า: Abdulghani Tohyor ถ่ายที่บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา วันที่ 23/11/64 ที่ผ่านมา ล่าสุดนายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา ประสานนายอิสมะแอ แวนะไร กำนันบันนังสาเรง พร้อมผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านกะตูปะ ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา พบชายชุดผ้าโสร่ง เสื้อแขนยาว สวมหมวก (กะปีเยาะ) ในชุดมาลายูมุสลิม ที่ปรากฏในโซเชียล ทราบชื่อ นายมะ ดอเลาะ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 6 ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา เป็นผู้ช่วยโต๊ะอิหม่าม (ตำแหน่ง บิหลั่น ประจำมัสยิดยันนาตุลมะวา บือยา) พร้อมสำรวจความเสียหายของถนนในหมู่บ้าน เร่งรัดดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ นายมะ ดอเลาะ อายุ 72 ปี เผยว่าปกติใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางจากบ้าน ที่บริเวณมัสยิด เข้าไปทำสวนข้างในหมู่บ้าน เห็นถนนในหมู่บ้านที่ใช้เดินทางประจำ เป็นหลุ่มเป็นบ่อ จึงนำดินที่มัสยิดมาถม เพื่อให้รถไม่ตกหลุม ไม่สะเทือน ทำแล้วดีใจ ภูมิใจที่จะทำด้วยใจ
นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา บอกว่าพื้นที่นี้เป็นถนนภายในหมู่บ้าน เป็นเส้นทางรองของถนนสาย 410 เป็นรอยต่อระหว่างหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 6 บ้านกะตูปะ ต.บันนังสาเรง ผู้นำศาสนาที่อยู่ในโซเชียล เห็นถึงความเดือนร้อนของประชาชนที่ใช้เส้นทาง เป็นหลุมเป็นบ่อ ประกอบกับเข้าสู่ช่วงหน้าฝน จึงได้นำดินที่มัสยิดมาซ่อมถมถนน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมาก หากพบถนนชำรุดให้แจ้งต่อทางอำเภอหรือทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับรับผิดชอบ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข.-สำนักข่าวไทย