รร.ดิเอมเมอรัลด์ 24 ม.ค. – ในงานเสวนาโครงการ “ผ่าทางตัน Solar Farm 800 MW.ทางรอดเกษตรกรไทย” นายปฎิพล เกตุรัตนัง ประธานสหกรณ์การเกษตรนาบอน จำกัด จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะตัวแทนสหกรณ์ฯ ทั่วประเทศ ระบุว่า สหกรณ์ภาคการเกษตรทั่วประเทศ 200 แห่ง เตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พรุ่งนี้ (25ม.ค.) เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 ที่จะเปิดรับซื้อ 119 เมกะวัตต์ โดยให้ใช้วิธีการคัดเลือกและจับสลากเหมือนโครงการฯ ระยะที่ 1 แทนการใช้วิธีการเปิดประมูลแข่งขันด้านราคา (บิดดิ้ง) เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เพราะหากใช้วิธีประมูลในโครงการเอสพีพีบิดดดิ้งทางสหกรณ์จะไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะขัดต่อวัตถุประสงค์การจัดตั้งสหกรณ์ฯ
“ตามนโยบายกระทรวงพลังงานระบุว่าจะเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ให้ตัดสินใจว่าโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์การเกษตรจะดำเนินการอย่างไรและจะเสนอให้ใช้วิธีประมูลในเอสพีพีไฮบิด ซึ่งไม่เป็นธรรรมต่อสหกรณ์ภาคใต้และอีสานที่เตรียมพร้อมเสนอโครงการจะสูญเสียประโยชน์จากรายได้ที่จะเกิดขึ้น เพราะรอบที่แล้วไม่มีการพิจารณาในภาคนี้” นายปฏิพล กล่าว
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ภาครัฐนำโครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการ ที่มีโควตาอยู่ 400 เมกะวัตต์ ที่ไม่สามารถดำเนินโครงการได้ เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ หลังคณะกรรมการกฤษฎีการตีความว่าหน่วยงานราชการไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ภาครัฐจึงมีแนวคิดที่จะนำโควตาที่เหลือเปลี่ยนไปให้ชุมชนทั่วไปแทน ดังนั้น จึงขอให้แบ่งโควตาในส่วนนี้มาให้สหกรณ์ภาคการเกษตรดำเนินการแทน ประมาณ 200 เมกะวัตต์ เนื่องจากยังมีสหกรณ์ฯ จำนวนมากที่สนใจ
นายสุนทร บุญญาธิการ ประธานมูลนิธิลดโลกร้อน มีความเห็นว่าวิธีการจับสลากระยะที่ 1 เป็นวิธีการที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ เพราะมีความโปร่งใส เป็นธรรม มีความเสมอภาค แต่หากเปลี่ยนแปลงวิธีการเป็นการประมูลและลดราคาจาก 5.66 บาทต่อหน่วย เหลือ 4.12 บาทต่อหน่วย ย่อมมีข้อครหาว่าเปลี่ยนแปลงเพื่อประโยชน์ของใคร เพราะที่ผ่านมาระยะที่ 1 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
“กกพ.ควรใจกว้างและมีเมตตาต่อภาคเกษตรกร เพราะมีโครงการโซลาร์ฟาร์มเหลือแค่ 119 เมกะวัตต์ ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณสหกรณ์ภาคการเกษตรทั่วประเทศที่เหลือ 2,000-3,000 แห่งในขณะนี้.” นายสุนทร กล่าว.-สำนักข่าวไทย