สระแก้ว 15 พ.ย. – เปิดใจ “ครูพรพิมล” ข้าราชการครูคนเดียวในโรงเรียนประถม อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ที่ต้องรักษาราชการ 5 ตำแหน่งในโรงเรียน กลายเป็นกระแสดังในโลกโซเชียล คนแห่ให้กำลังใจ ด้าน สปพ.เขต 1 และหน่วยงานต้นสังกัด เตรียมจัดสรรกำลังคนอีก 4 อัตรา ช่วยแบ่งเบาภาระแล้ว
กรณีครูสาวรายหนึ่งแชร์เอกสารคำสั่งแต่งตั้งที่ปรากฏชื่อของครูพรพิมล ซึ่งเป็นครูเพียงคนเดียวที่มีหน้าที่ถึง 4 ตำแหน่ง และยังควบตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน เซ็นรับทราบอนุมัติด้วยอีก 1 ตำแหน่ง ในโรงเรียนพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว พร้อมทั้งแนบภาพเอกสารคำสั่งโรงเรียน เรื่องแต่งตั้งและมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ราชการของบุคลากร ภาคเรียนที่ 2/2564 พบว่ามีการแต่งตั้งหัวหน้ากลุ่มบริหารงานบุคคล, หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ, หัวหน้ากลุ่มบริหารงานงบประมาณ และหัวหน้ากลุ่มบริหารงานทั่วไป โดยครูพรพิมลได้รับการแต่งตั้งทั้งหมด เนื่องจากเป็นครูคนเดียวที่เป็นข้าราชการในโรงเรียน จึงต้องเป็นผู้ที่เซ็นรับรองเอกสารทั้งหมด และยังโพสต์ด้วยว่า ตนกำลังเอาขาข้างหนึ่งเข้าไปในคุกกับกรณีนี้ด้วย จนกลายเป็นกระแสดังไปทั่วโลกโซเชียล มีคนแห่เข้ามาให้กำลังใจ พร้อมถามหาความรับผิดชอบจากหน่วยงานต้นสังกัด
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนวัดเกศแก้ว ม.4 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว อยู่ห่างจากโรงพยาบาลวังน้ำเย็น ไม่ถึง 100 เมตร พบกับ น.ส.พรพิมล ศรีพลนอก ตำแหน่งครูผู้ช่วย โครงการครูคืนถิ่น จบเอกภาษาไทย เพิ่งบรรจุเป็นข้าราชการครูได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ปัจจุบันต้องรักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเกศแก้ว และทุกตำแหน่งในโรงเรียน เพราะโรงเรียนเหลือครูแค่ 2 คน คือตัวครูพรพิมล กับครูธุรการอีก 1 คน โดยมีนักเรียนทั้งหมด 40 คน แต่หลังเปิดเทอมได้ 1 สัปดาห์ ก็มีครูเกษียณแวะเวียนมาช่วยสอนชั้น ป.5 และ ป.6 จากเดิมที่โรงเรียนนี้มีครูอยู่ 5 คน โดยนายยุทธนา อุนาศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนคนเก่า และครูผู้สอนอีกคน ขอย้ายกลับภูมิลำเนา ครูเกษียณอายุราชการ 1 คน ทำให้ครูพรพิมลต้องรักษาการตำแหน่งดังกล่าวต่างๆ ด้วยทุกตำแหน่ง โดยมีนายกล่ำ หาโกสีห์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวังน้ำเย็นมิตรภาพที่ 179 ในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มเครือข่าย ช่วยดูแลและให้คำปรึกษาอยู่ในปัจจุบัน
น.ส.พรพิมล เปิดใจว่า ภายหลังเกิดกระแสดังไปทั่วโซเชียล เนื่องจากมีครูอย่างน้อย 1 คน ที่ประกาศลาออกจากอาชีพข้าราชการครู เพราะแบกรับภาระไม่ไหวไปก่อนหน้านี้ โดยสาเหตุที่ตนโพสต์กรณีนี้เพราะได้เข้าร่วมอบรมครูคืนถิ่น จึงบอกกับครูธุรการว่าเรายังไม่ได้ทำคำสั่งหัวหน้า 4 ฝ่าย เพราะว่าเมื่อตอนเปิดเทอมได้ทำคำสั่งประชุมผู้ปกครองไปแล้ว ก็เลยทำคำสั่งหัวหน้า 4 ฝ่ายออกมา และเป็นข่าวอย่างที่เห็น แต่ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปพาดพิงถึงองค์กรเลย
ไม่ได้หมายถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ เข้าใจว่าอยู่ในช่วงรอยต่อที่เขตพื้นที่จะจัดสรรคนมาให้ ล่าสุด สพป. หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 1 จะมีการเพิ่มอัตรากำลังคน 4 อัตรา มาให้ ขณะนี้ยังไม่ทราบ แต่รู้สึกดีใจที่จะได้ครูมาช่วย เพราะตอนนี้อยู่กับครูธุรการ และได้ไปขอให้ครูที่เกษียณไปเมื่อเดือน ก.ย.64 มาช่วยสอน ถามว่าหนักไหม ก็หนักอยู่ สอน ป.1, ป.2, ป.3, ป.4 และตอนนี้ก็ทิ้งเด็ก ป.1, ป.2 ไม่ได้เลย บางครั้งตนก็ท้อ บางทีสอน ป.1 ป.2 อยู่ แล้วเด็ก ป.3 และ ป.4 ก็เรียกคุณครูขา คุณครูขา ก็ต้องรีบวิ่งเพื่อมาสอน ยังดีได้คุณครูธุรการมาช่วยดูแลการสอนวิชาอื่น เพราะครูจบเอกภาษาไทย แต่โรงเรียนประถมได้สอนทุกวิชา
ตนไม่ได้มีเจตนาจะต่อว่า ว่าทำไมหน่วยงานไม่ส่งครูมาช่วย แต่ตอนนี้ดีใจที่ต้นสังกัดจะส่งบุคลากรมาเพิ่ม จึงอยากฝากขอโทษหน่วยงานต้นสังกัด เพราะความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเองด้วย ซึ่งสิ่งที่ตนเองได้จากการโพสต์คือ ยังมีอีกหลายๆ โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่เจอปัญหาเหมือนกัน ปัจจุบันมีนักเรียน 40 คน ซึ่งตนเป็นข้าราชการครูคนเดียวในโรงเรียน และมีครูธุรการอีก 1 คนเท่านั้น
ทั้งนี้ บรรยากาศที่โรงเรียนวัดเกศแก้ว อ.วังน้ำเย็น ภายหลังเกิดกระแสดังกล่าวในโลกโซเชียล ทางโรงเรียนยังคงจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1-3, ป.1-ป.4 และ ป.5-ป.6 ตามปกติ ซึ่งตลอดทั้งวันหลังโรงเรียนนี้กลายเป็นกระแสดัง ทีมผู้บริหารจากโรงเรียนกลุ่มเครือข่าย นำโดยนายกล่ำ หาโกสีห์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวังน้ำเย็นมิตรภาพที่ 179 และผู้บริหารจากโรงเรียนคลองตาสูตร โรงเรียนบ้านวังบูรพา และโรงเรียนใกล้เคียง ได้เดินทางเข้าให้กำลังใจ น.ส.พรพิมล และครูภายในโรงเรียน พร้อมรับปากจะช่วยกันหาทางแก้ไข เพื่อแบ่งเบาภาระของครูที่เหลืออยู่ ภายหลังโรงเรียนนี้เปิดการเรียนการสอนแบบ On Site ได้เพียง 1 สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย
