กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- งานเสวนา “รถไฟจีน-สปป.ลาว ประเมินโอกาส ความท้าทาย ผู้ประกอบการไทย” หลายหลายภาคส่วน ยอมรับจะเกิดประโยชน์การเชื่อมโยงโลจิสติกส์ ที่มีอานิสงส์ถึงไทย โดยผู้ประกอบการไทยควรรีบเข้าไปมีส่วนในการใช้ประโยชน์ ระหว่างที่รอโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีนจะก่อสร้างแล้วเสร็จสามารถไปเชื่อมต่อได้ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการจัด เสวนา “รถไฟจีน-สปป.ลาว ประเมินโอกาส ความท้าทาย ผู้ประกอบการไทย” โดย ธนาคารกสิกรไทย นายมงคล วิศิษฎ์สตัมภ์ กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ระบุ ว่า ผู้ประกอบการไทยควรใช้โอกาสที่โครงการรถไฟจีน-สปป.ลาว มีความคืบหน้า เกิดการเชื่อมโยง ทางด้านเศรษฐกิจ การค้าข้ามแดน และโลจิสติกส์ เพราะโครงการรถไฟเส้นนี้ไม่ได้เกิดประโยชน์เฉพาะจีน และสปป.ลาว เท่านั้น แต่ในอนาคตไทยก็จะได้ประโยชน์ด้วย แม้ว่าปัจจุบันโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูงไทย -จีน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างอีก 5-7 ปีและโครงการรถไฟทางคู่ที่จะไปเชื่อมต่อจะใช้ระยะเวลาพัฒนาอีก 4-5 ปี แต่หากเส้นทางรถไฟของจีน-สปป.ลาวแล้วเสร็จ ผู้ประกอบการไทยควรฉวยโอกาสเกาะเกี่ยว เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการขนส่งสินค้าจากไทยไปจีนตอนใต้ โดยช่วงแรก สามารถใช้วิธีขนส่งข้ามแม่น้ำโขงไปก่อน เพื่อไป เชื่อมต่อระบบรถไฟสายดังกล่าว เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ จีดีพี. โตเฉลี่ย 6.4 % ต่อปี มีประชากร 1,412 คน จึงเป็นตลาดใหญ่ที่มีความสำคัญของสินค้าไทยแน่นอน
“การเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง เชื่อมระหว่าง จีน-สปป.ลาว นี้ ถือเป็นการพลิกโฉมภาคการขนส่ง ทำให้การขนส่งสินค้าจากไทยไปจีนตอนใต้ใช้เวลาเพียง 1 วัน สามารถลดเวลาจากการขนส่งสินค้าทางถนน และทางเรือที่ใช้เวลามากกว่าและเกิดความเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหายได้มาก ผู้ประกอบการไทยจึงไม่ควรพลาดโอกาสครั้งนี้ในการเข้าไปมีส่วนร่วม ใช้ประโยชน์ระบบขนส่งทางรางสายนี้”กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง กล่าว
กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาการเกิดการระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบในภาคการขนส่งทั้งทางถนนและทางเรือ ผ่านด่านต่างๆ ระหว่างจีนและ สปป.ลาว อย่างมาก ขณะที่ การขนส่งทางอากาศก็จะมีต้นทุนที่สูง ดังนั้นการขนส่งผ่านระบบรางก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เกิดประโยชน์ต่อโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง จีต-สปป.ลาว นี้ จะเปิดการเดินรถตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันชาติของลาว โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ประกอบด้วย 32 สถานี แบ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้า 22 แห่ง และสถานีโดยสาร 10 แห่ง ผ่านเมืองสำคัญหลายแห่งในนครหลวงเวียงจันทน์ แขวงเวียงจันทน์ แขวงอุดมไซ และแขวงหลวงพระบาง จนถึงปลายทางคือเมืองบ่อเต็น ในแขวงหลวงน้ำทา ซึ่งจะมีการเชื่อมระบบต่อถึงเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน.-สำนักข่าวไทย