กทม. 30 ต.ค.-ศ.ดร.กนก ชี้ 1 พ.ย.เปิดประเทศ นักท่องเที่ยวอาจน้อยกว่าที่หวัง แนะรัฐบาล สร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ ใช้องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม เพิ่มมูลค่าผลผลิต ให้เกษตรกรก้าวข้ามความเป็นพรรค จับมือทำเพื่อประชาชน หยุดปัญหาการเมืองภายใน-ระหว่างพรรค
ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการฟื้นเศรษฐกิจในช่วงที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่ยุติว่า เป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการควบคู่ไปกับการคุมโรค ลำพังแค่การเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้อาจยังไม่เพียงพอ เพราะชัดเจนว่าระยะแรกของการเปิดประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวอาจไม่มากอย่างที่หวัง อีกทั้งการเดินทางระหว่างประเทศยังมีข้อจำกัด ไม่เป็นไปตามปกติ เม็ดเงินที่จะได้จากการท่องเที่ยว จึงยังไม่น่าจะมีตัวเลขที่สูงมากนัก ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องพิจารณาดำเนินการเป็นนโยบายจริงจัง คือ การสร้างความเข้มแข็งจากภายใน ด้วยการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เพิ่มมูลค่าผลผลิตด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรม ในฐานะที่ตนเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของสภาผู้แทนราษฎร เราริเริ่มสร้างกาฬสินธุ์โมเดล เป็นต้นแบบความสำเร็จการเกษตรมูลค่าสูง ใช้ความรู้ทางวิชาการของอาจารย์ สถาบันศึกษาในพื้นที่ เพาะเห็ดนางฟ้า เริ่มจากชาวบ้าน 7 คน ขยายไปเรื่อย ๆ จนเป็น 100 คน
ศ.ดร.กนก กล่าวว่า ความตั้งใจของกรรมาธิการฯได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากชาวบ้าน หันมาให้ความสนใจโครงการนี้มากขึ้น จากเดิมที่ผมเคยมีความรู้สึกเหมือนถูกค้อนทุบหัว เมื่อพบชาวบ้านและถูกถามว่า มาเอาอะไร มีอะไรมาแจกบ้าง สิ่งเหล่านี้เหมือนกับว่าชาวบ้านคุ้นเคยกับการแจกของนักการเมือง ถ้าไม่มีของแจกก็ไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน สะท้อนว่าความไว้วางใจของประชาชนต่อนักการเมืองกำลังถูกสั่นคลอน หมายถึงความอ่อนแอของระบอบประชาธิปไตย แต่ความมุ่งมั่น ที่จะช่วยเหลือ เพิ่มรายได้ด้วยองค์ความรู้ที่เรามี ทำให้ชาวบ้านหันมาไว้วางใจพวกเราอีกครั้ง รัฐบาลควรสนับสนุนแนวคิดใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ไปเพิ่มรายได้ให้ชาวบ้าน หยุดปัญหาการเมืองภายในพรรค หันมาทุ่มเทมันสมอง งบประมาณ กับการสร้างรายได้ให้ประชาชน เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่แค่หน้าที่ของรัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของนักการเมืองทุกคนที่ต้องร่วมมือกัน ก้าวข้ามความเป็นพรรค หยุดการชิงไหว ชิงพริบทางการเมือง ทำให้ประชาชนเห็น ช่วยกันเรียกศรัทธาจากประชาชนกลับคืนมา ไม่เพียงชาวบ้านได้ประโยชน์ แต่ประชาธิปไตย จะกลับมายืนหยัดอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย