สถาบันพระปกเกล้า 4 ก.พ.- อภิสิทธิ์ หนุนหามาตรการเพื่อให้คนจ่ายสินบนร่วมมือในการเอาผิดคนรับสินบน แต่ต้องมีความเหมาะสม เกรงเข้าใจผิดจ่ายสินบนไม่ใช้ความผิด แนะใช้รูปแบบเดียวกับกฎหมายเลือกตั้งกรณีการซื้อขายเสียง ขณะเดียวกัน ควรปรับปรุงกฎหมายปราบปรามทุจริต โดยเฉพาะการสืบสวนหาผู้กระทำผิด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็น กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นด้วยที่กระทรวงการคลังเสนอให้ใช้มาตรา 44 ลดโทษให้ผู้ที่จ่ายสินบนให้รับผิดทางแพ่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลเอาผิดผู้ที่รับสินบน ว่า ต้องการให้มีการศึกษาให้รอบคอบ เพราะมีเหตุผล 2 ทางคือ เป็นห่วงว่าเมื่อมีความผิดเกิดขึ้น เป็นเรื่องยากที่จะได้ข้อมูลพยานหลักฐาน เพราะคนที่ให้สินบนก็คือผู้กระทำผิดด้วย อีกทางหนึ่ง หากผู้ให้ไม่ต้องรับผิดอาญา จะเป็นการส่งสัญญานที่ไม่ดี เท่ากับว่าการจ่ายสินบนไม่ใช่ความผิด อาจมีการทำผิดมากขึ้น ทั้งนี้ ต้องการให้ดูถึงความเหมาะสมที่สมดุลกัน
“อย่างกฎหมายเลือกตั้ง ก็จะมีการพูดถึงคนซื้อคนขาย สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่าผิดทั้งคู่ แต่เปิดโอกาสกรณีผู้ที่ขายเสียงมาแจ้งเจ้าหน้าที่ย้อนหลังภายในเวลาที่กำหนด ก็จะมีการยกเว้น หรือ ลดหย่อนผ่อนโทษให้ ผมจึงต้องการให้รูปแบบคล้ายคลึงกัน เพื่อยืนยันว่าการให้สินบนก็เป็นความผิด เพียงแต่ต้องมีมาตรการหรือช่องทาง ที่จะทำให้ผู้ที่จ่ายสินบนร่วมมือในการสืบสวนเพื่อเอาผิดกับคนรับสินบน”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า ปัญหาใหญ่ของประเทศ คือการบังคับใช้กฎหมาย อย่างตรวจสอบการทุจริตติดสินบนพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมือง ที่เกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องยนต์ของบริษัทโรลส์-รอยซ์ ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ แต่ในประเทศไทยกลับไม่มีการรับรู้มาก่อน ดังนั้น ภาครัฐควรปรับปรุงกฎหมายด้านนี้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการสืบสวนหาผู้กระทำผิด
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกโพสข้อความขู่สังหารทางโซเชียลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันข้อเท็จจริงแล้ว และพล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้หวั่นไหวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมาย .- สำนักข่าวไทย