กรุงเทพฯ 5 ต.ค.-ผลงานองค์การเภสัชกรรมในการพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2564 ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ประเภทหน่วยงานรัฐ จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ศาตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มอบรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2564 (National Innovation Award 2021) ให้แก่ องค์การเภสัชกรรม ผลงานการพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์ขององค์การเภสัชกรรมได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2564 ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ประเภทหน่วยงานรัฐ
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ผลงานนวัตกรรมดังกล่าว องค์การฯร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการพัฒนาการสังเคราะห์ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยใช้สารตั้งต้นตัวใหม่และเทคโนโลยีการสังเคราะห์แบบไหลต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัย ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถต่อยอดใช้ในการสังเคราะห์วัตถุดิบอื่นๆได้ด้วย ซึ่งการพัฒนายาเม็ด FAVIR หรือยาฟาวิพิราเวียร์นั้น นักวิจัยใช้เทคนิคการลดขนาดอนุภาคที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มการละลาย ส่งผลให้มีชีวสมมูลเทียบเท่ายาต้นแบบ ทั้งนี้องค์การฯได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อเร่งรัดกระบวนการทำงาน ให้ใช้ระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาใหม่ให้สั้นลง และได้ผลิตภัณฑ์ยาเพื่อจำหน่ายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้สามารถผลิตได้ในระดับอุตสาหกรรม ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาที่มีคุณภาพ ช่วยประหยัดงบประมาณของภาครัฐได้มากกว่า360ล้านบาท และประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้
ทั้งนี้ยา FAVIR หรือ ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาเม็ดที่ให้โดยวิธีการรับประทาน ซึ่งผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยสูงอายุ หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดได้ อาจมีข้อจำกัดในการใช้ยานี้ องค์การฯจึงได้ร่วมมือกับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พัฒนายาเตรียมเฉพาะคราวในรูปแบบยาน้ำแขวนตะกอน (Favipiravir 100 mg/mL extemporaneous suspension) เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้ยาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นด้วย
“การพัฒนายาฟาวิพิราเวียร์ขององค์การเภสัชกรรม ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากยาฟาวิพิราเวียร์เป็นยาหลักที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดการระบาดในประเทศไทยและทั่วโลก การพัฒนาและผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ขององค์การเภสัชกรรม จึงทำให้ผู้ป่วยได้รับยาในการรักษาได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ลดจำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตลงได้ อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้ายาจากต่างประเทศ และทำให้เกิดความมั่นคงด้านยาของประเทศ ในอนาคตองค์การเภสัชกรรม ยังคงมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนายา วัคซีน และเวชภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงนวัตกรรมด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวในตอนท้าย.-สำนักข่าวไทย