นนทบุรี 6 ก.พ.-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ระบุราคาก๊าซขึ้นกระทบต้นทุนอาหารต่อจานเพียง 10 สตางค์ ห้ามอ้างขอปรับราคาอาหารต่อจานขึ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติเห็นชอบปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี เป็นครั้งแรกในรอบปี มีผล 7 ก.พ. 60 ขยับขึ้นอีก 0.67 บาท/กก. หรือ 20.96 บาท/กก. จากเดิมราคา 20.29 บาท/กก. ส่งผลถังก๊าซขนาด 15 กก.ขยับขึ้น 10 บาท /ถัง ว่า การปรับขึ้นราคาดังกล่าวแทบไม่กระทบต่อต้นทุนอาหารตามสั่งโดยเฉลี่ยก๊าซ 15 กก. จะทำอาหารได้ประมาณ 2-300 จานเมื่อเฉลี่ยแล้วเท่ากับว่าเป็นต้นทุนเพียง 10 สต.ต่อจานเท่านั้น ดังนั้น จะอ้างว่าต้องปรับขึ้นราคาอาหารเพราะต้นทุนค่าก๊าซจึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควร และก่อนหน้านั้นก๊าซก็เคยปรับขึ้นราคาสูงถึง 390 บาทต่อถังซึ่งสูงมากและตอนนั้นก็ปรับขึ้นราคาอาหารตามสั่งไปแล้ว และเมื่อราคาก๊าซลดลงราคาอาหารตามสั่งก็ไม่ได้ปรับลดลงตามแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุผลที่จะอ้างขึ้นราคาอาหารอีก และหากประชาชนพบเห็นการขึ้นราคาสินค้าไม่มีเหตุผลร้องสายด่วน 1569 ได้ทันที
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ควรเลือกซื้ออาหารจากร้านที่แจ้งราคาจัดเจนและสมเหตุสมผลหากเห็นว่าแพงเกินไปก็ควรเลือกร้านที่ราคาถูกกว่าตามนโยบายฉลาดซื้อประหยัดใช้ รวมทั้งการเลือกเข้าร้านหนูณิชย์ พาชิม ที่มีอาหารราคาถูกกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 11,000 ร้านซึ่งปีนี้มีความตั้งใจว่าจะขยายจำนวนร้านให้ได้อีกเท่าตัวหรือเป็น 22,000 ร้าน รวมทั้งจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหาแนวทางในการคัดเลือกร้านหนูณิชย์ พาชิม ติดดาวโดยจะเป็นร้านที่นอกเหนือจากความสะอาด ราคาถูกแล้วยังต้องได้รับการยอมรับว่าอร่อยอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย