ทำเนียบรัฐบาล 20 ก.ย.-นายกฯ ย้ำทุกกระทรวงปรับหลักคิดเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ ใช้นวัตกรรมเปิดกว้างการทำงาน เน้นความต้องการประชาชนและทุกภาคส่วน กำชับเตรียมรับมือน้ำท่วม ป้องกันสถานที่สำคัญ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นโอกาสที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน การบูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตลอดจนแผนงาน แผนคน และแผนงบประมาณ รวมทั้งติดตามข้อสั่งการที่กระทรวงต่าง ๆ ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่าย
“ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มดีขึ้น และรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยการทำงานต่อไปให้ยึดหลัก 3 เรื่อง ได้แก่ 1. Hardware คือ โครงสร้างต่าง ๆ แนวคิด นโยบาย งานตามหน้าที่ Function และงาน Agenda 2. Software คือ งานในส่วนที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องที่จะต้องแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เช่น การแก้ไขกฎหมาย แพลตฟอร์มต่างๆ การสร้างนวัตกรรมใหม่ ความคิดริเริ่ม และ 3. การเตรียมการด้านทรัพยากรมนุษย์รองรับโลกยุคใหม่และหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งเร่งสร้างความเข้าใจว่าจะต้องอยู่กับโควิด และก้าวผ่านภาวะวิกฤตินี้ไปได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาคราชการต้องปรับตัว ปรับหลักคิด ปรับหลักการทำงานเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาเสริมการทำงาน เป็นภาคราชการที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน ตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำภาพรวมของประเทศว่า ที่ผ่านมารัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ทั้งการระบายน้ำ การกักเก็บน้ำ การบริหารจัดการลุ่มน้ำต่าง ๆ ของประเทศ น้ำด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การดูแลน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนอย่างเพียงพอ การดูแลน้ำในการผลักดันน้ำเค็ม การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง เป็นต้น ภายใต้การบริหาราชการของรัฐบาล สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเข้ามาปรับใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถลดการสูญเสียและค่าเสียต่าง ๆ ได้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันและจัดหาเครื่อมือ ตลอดจนยุโธปรกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันน้ำท่วมสถานที่สำคัญ ที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น สถานที่โรงพยาบาล สถานที่ราชการ พื้นที่ธุรกิจ และที่อยู่อาศัยประชาชน เป็นต้น ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีถ่ายภาพร่วมกับคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ที่เกษียณอายุราชการ ประจำปี 2564 จำนวน 10 คน ณ บริเวณโถงตึกไทยคู่ฟ้าด้วย.-สำนักข่าวไทย