พรรคเพื่อไทย 4 ส.ค. – “เพื่อไทย” แถลงเคลียร์งบ 1.6 หมื่นล้านบาท ใช้ช่วยประชาชนเรื่องโควิด ยืนยัน กมธ.เพื่อไทย ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง เห็นชีวิตประชาชนสำคัญกว่าเรื่องการเมือง
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 65 ร่วมกันแถลงถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยกมือโหวตนำเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท ไปไว้ที่งบกลาง เพื่อแก้สถานการณ์โควิด
นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยตระหนักดีถึงสถานการณ์โควิดในปัจจุบันที่การแพร่ระบาดของเชื้อส่งผลให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เมื่อเทียบสถิติจำนวนผู้ป่วยปีที่แล้วกับปีนี้จะเห็นว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ย้อนไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 มียอดผู้ป่วยสะสม 3328 ราย วันนี้ 4 สิงหาคม 2564 มียอดผู้ป่วยสะสม 643,532 ราย สิ่งนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์โควิดเป็นสถานการณ์ที่ต้องรับมือ ดังนั้น การพิจารณาในชั้น อนุ กมธ. ที่มีการปรับลดงบประมาณ เกิดจากการปรับลดงบฯ ที่หลายพรรคการเมืองช่วยกัน โดยเห็นตรงกันว่าควรจะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาจากสถานการณ์โควิด เพื่อรัฐบาลจะได้ไม่ต้องไปกู้เงิน ประชาชนจะได้ไม่ต้องแบกภาระหนี้เพิ่มเติมขึ้นมา ซึ่งมีประเด็นคำถามมากมายในช่วง 2-3 วันนี้ คือ 1.เอางบกลางไปให้นายกฯ ใช้นั้น พรรค พท. ขอชี้แจงว่า สิ่งที่ กมธ.ของพรรค พท. คิดและตัดสินใจนั้น คือ เอางบกลางไปเป็น “งบโควิด” เป็นงบฯ ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ยืนยันได้จากคำขอในการใช้งบกลางของรัฐบาล และ กมธ.ได้ตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ในท้ายร่าง พ.ร.บ. งบประมาณด้วยว่าต้องใช้เพื่อโควิดเท่านั้น
และในความเป็นจริง การจะนำงบที่ปรับลดหรือใช้อะไร ย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ กมธ. ดังนั้นสิ่งที่พรรคก้าวไกล เสนอเรื่องการเอาเงินที่ปรับลดลงแล้วไปเพิ่มเติมในส่วนต่างๆ นั้น เมื่อได้ดูในรายละเอียดแล้วเห็นว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอมาไม่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาโควิด ซึ่งเรื่องนี้ไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องเอางบกลางที่เราเรียกว่างบโควิดไปใช้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่ขณะนี้กำลังทนทุกข์อย่างแสนสาหัส
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า คำกล่าวที่ว่าเอางบกลางไปให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ จะเอาไปใช้อย่างไรก็ได้ จึงเป็นคำกล่าวที่เกินเลยข้อเท็จจริงไปมาก และการอ้างว่าเอาเงินไปไว้ในงบกลาง คือ การรื้อฟื้น งบ ส.ส.จะเกิดการวิ่งเต้นเหมือนในอดีต ขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ และไม่มีมูลความจริงอย่างยิ่ง ซึ่งสิ่งที่พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดคือการปฏิเสธการทำงานของนายกฯ มีการวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอด
ด้านนายวรวัจน์ กล่าวว่า งบประมาณมีกฎเกณฑ์และระเบียบวิธีการค่อนข้างมาก ซึ่งวันนี้ต้องยอมรับก่อนว่าวิกฤติจากสถานการณ์โควิดค่อนข้างมาก งบฯ 3.1 ล้านล้านบาทนั้น มาจากการที่หน่วยงานต่างๆ ทำเรื่องขอไปยังไปรัฐบาล กมธ.ทำการปรับลดงบประมาณจากส่วนที่เราเห็นว่ามีความจำเป็นน้อย หรือไม่เข้ากับสถานการณ์ การจัดงบประมาณปี 65 เป็นการจัดตามแผนเดิมที่ไม่มีเรื่องของโควิดอยู่เลย เพราะจัดทำงบฯ ตั้งแต่เดือนปลายปี 63 ซึ่งขณะนั้นสถานการณ์โควิดดีขึ้นจากการระบาดรอบแรก มีเพียงแผนงบกลางเท่านั้นที่เขียนให้ใช้เงินในเรื่องโควิดได้ เมื่อเห็นดังนี้ในสถานการณ์โควิดที่ทวีความรุนแรงขึ้น เราจึงตัดสินใจนำเงินไปใส่ไว้ในแผนที่สามารถนำมาใช้ในเรื่องที่เกี่ยวกับโควิดได้ นั้นคือแผนงานงบกลาง ต้องแยกระหว่างความไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ กับการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์โควิดให้ประชาชน เราเลือกช่วยเหลือประชาชนก่อน ซึ่งงบกลางเป็นเพียงช่องทางเดียวเท่านั้นที่นำงบฯ ออกมาใช้เพื่อโควิดได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมา งบฯ ปี 64 หลังจากที่ตัดแล้วเอาไปไว้ตรงส่วนไหน นายวรวัจน์ กล่าวว่า มีการโอนงบฯ ไปไว้งบกลางเพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิดบางส่วน เพราะปีที่แล้วเรามีแผนงบตรงนี้ตั้งไว้ แต่ปีนี้ งบฯ 3.1 ล้านล้านบาท ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับโควิดเลย ดังนั้น ในส่วนนี้ เราจึงตัดสินใจเอางบฯ 1.6 หมื่นล้านบาทนี้ ไปไว้ที่งบฯ กลางเพื่อให้มีงบฯ ในส่วนของโควิด นี่คือความผิดพลาดของการจัดสรรงบฯ 65 ที่ไม่มีหน่วยงานใดจัดสรรงบฯ เพื่อแก้ไขปัญหาโควิดเลย เป็นความประมาทอย่างยิ่ง เราเพียงมาช่วยแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้นเอง. – สำนักข่าวไทย