เซี่ยงไฮ้ 4 มี.ค.- หนุ่มชาวจีนที่เพิ่งรอดชีวิตจากขุมนรกศูนย์สแกมออนไลน์ในเมียนมา เล่าเส้นทางที่นำไปสู่การทำงานหลอกลวงออนไลน์ และภาพความโหดร้ายที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา
“ที่นั่น .. ผมเห็นคนถูกขาย ถูกเฆี่ยนตี รวมทั้งเห็นคนตายทุกวัน”
นี่คือคำบอกเล่าส่วนหนึ่งของ จู่ โปชุน หนุ่มจีนวัย 39 ปี ที่เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกง หลังจากที่เพิ่งรอดพ้นจากขุมนรกศูนย์สแกมออนไลน์ในเมืองเล่าก์ก่าย เมืองเอกของเขตปกครองพิเศษโกก้าง เมียนมา และได้กลับยังบ้านเกิดในเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อไม่นานมานี้

จู่เผยว่า กลางปี 2566 เขาถูกหลอกให้เข้าไปพัวพันกับแก๊งสแกมออนไลน์ หรือ แก๊งหลอกทรัพย์คนผ่านทางอินเทอร์เน็ต เพราะความอยากได้งานทำจึงเข้าไปหาข้อมูลตามกลุ่มแชทต่าง ๆ จากนั้นมีชายคนหนึ่งติดต่อมาทาง WeChat ส่วนตัวพร้อมกับเสนองานให้พร้อมรายได้งามอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน คือ เดือนละ 10,000 หยวน หรือ ราว 50,000 บาท โดยมีเงื่อนไขให้ทำงานง่าย ๆ เพียงลักลอบนำของผ่านด่านศุลกากรไทย
หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย จู่ก็ได้รับตั๋วรถไฟให้เดินทางไปที่สิบสองปันนา มณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อถึงปลายทางเขาได้พบกันคนจากต่างถิ่นซึ่งเผชิญชะตากรรมเดียวกันอีก 5 คน ทั้งหมดถูกชายในชุดทหารพรานกลุ่มหนึ่งพาเดินเท้าข้ามเขาต่อไปยังชายแดนจีน-ลาว จู่เล่าว่า เมื่อถึงแนวชายแดน เขาและอีกหลายสิบคนที่มาต่างกลุ่มถูกจับแยกย้ายขึ้นรถ ระหว่างนั้นสังเกตเห็นได้ว่า หัวหน้าชุดจ่ายเงินให้จุดตรวจผ่านแดนเป็นรายทางจนเข้าไปถึงเมียนมา เขาได้ยินเสียงเด็กนักเรียนท้องถิ่นพูดกันเป็นภาษาจีนกลางว่า “มีคนจีนถูกขายมาอีกแล้ว”
เมื่อถึงอาคารซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง จู่ต้องตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น คือ กลุ่มคนจีนกำลังถูกเฆี่ยนตีเลือดอาบ ในขณะที่คนจีนอีกกลุ่มกำลังทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างขะมักเขม้น เพื่อหลอกเอาเงินคนผ่านอินเทอร์เน็ตให้ได้มากที่สุด ถ้าไม่ยอมทำตามคำสั่งก็จะถูกทารุณกรรม ไปจนถึงขั้นถูกยิงเสียชีวิต ถ้าคนไหนหมดประโยชน์ก็จะถูกขายส่งตัวต่อไปยังเมียวดี หรือไม่ก็พาขึ้นเรือออกไปน่านน้ำสากลเพื่อการผ่าตัดเอาไตไปขาย จู่เล่าว่า เขาเห็นคนถูกยิงต่อหน้าต่อตาภายในศูนย์นั้น 11 คน ในจำนวนนี้ดับคาที่ 4 คน ที่เลวร้ายที่สุดคือ กลุ่มผู้บงการมักโชว์ไลฟ์สดเหยื่อที่ถูกทรมานให้คนในสถานที่นั้นดูเพื่อเป็นการข่มขู่
แต่ละคนที่ถูกหลอกไปทำหน้าที่ต้มตุ๋นคนทางออนไลน์ จะมีคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถืออีก 4 เครื่องเป็นอุปกรณ์ในการทำงาน ทั้งหมดต้องสร้างบัญชีปลอมในสื่อโซเชียลไม่ต่ำกว่า 20 บัญชีเพื่อหว่านทักและตีสนิทเหยื่อในสื่อโซเชียล เช่น Whatsapp และ Line ให้ได้ตามเป้าที่ผู้บงการกำหนด คือ วันหนึ่งต้องมากกว่า 100 ราย เมื่อเหยื่อติดเบ็ดก็ต้องล่อหลอกต่อด้วยสารพัดวิธี เช่น หลอกให้ลงทุนทั้งในรูปแบบหุ้น เงินคริปโต หรือพนันออนไลน์ รวมทั้ง love scam ซึ่งก็คือหลอกให้รักและยอมโอนจ่าย หากทำได้สำเร็จอย่างน้อยก็ช่วยให้พ้นจากการถูกทารุณกรรมได้ราว ๆ 7-10 วัน
เหยื่อโรงงานนรกต้องทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ และยากที่จะเล็ดรอดหลบหนีออกมาจากตึกสูงได้ เพราะทุกชั้นนอกจากติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกมุมแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธคุมเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง แต่พวกเขาเหล่านั้นจะได้รับโอกาสให้โทรติดต่อกับโลกภายนอกได้เดือนละครั้ง จู่เล่าว่า เขาจำต้องใช้อุบายโทรหาเพื่อนสมัยเด็ก จากนั้นจึงฉวยโอกาสเมื่อผู้คุมเผลอก็รีบส่งข้อความแจ้งจุดที่ถูกควบคุมตัวขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ก่อนจะรีบลบข้อความทิ้ง ไหวพริบของจู่นำไปสู่การช่วยเหลือให้เขาพ้นจากขุมนรกศูนย์ออนไลน์สแกมได้ในที่สุด.-810(814).-สำนักข่าวไทย