“กรณ์” เสนอรัฐรื้อแผนงบประมาณ ย้ำประชาชนต้องเข้าถึงการตรวจ

กรุงเทพฯ 17 ก.ค.-พรรคกล้า นำร่องตั้ง “ศูนย์กล้าดูแล” ตัดวงจรระบาดในชุมชน แยกผู้ติดเชื้อโควิดออกจากครอบครัว ให้ยา-ช่วยหาเตียง “กรณ์” ชี้ ปีนี้โควิดแรงกว่าปีที่แล้ว แต่เงินเยียวยาน้อยกว่าเดิม เสนอรัฐ รื้อแผนงบประมาณ ปรับแผนเยียวยา งดเว้นจัดเก็บภาษี ย้ำประชาชนต้องเข้าถึงการตรวจ ยอมรับผล Rapid Antigen Test เข้ารับการรักษาได้ ไม่ต้องตรวจซ้ำ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า นำทีมงานพรรคกล้าเขตบางกะปิ ลาดพร้าว วังทองหลาง และชลบุรี ร่วมกับชุมชนร่วมกันสร้าง ลาดพร้าว 101 แยก 40 เปิด “ศูนย์กล้าดูแล” นำร่องเป็นศูนย์แยกผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระดับสีเขียวออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดแบบทวีคูณ ตามที่เคยเสนอแนวคิดสถานกักตัวชุมชน Community Quarantine เพื่อยับยั้งการระบาดในชุมชน โดยผู้ติดเชื้อได้รับการดูแลโดยอาสาสมัคร บริการที่นอน อาหาร ยารักษาเบื้องต้น จนกว่าจะได้เตียงรักษาจากโรงพยาบาล และมีแผนจะร่วมกันทำในชุมชนต่อๆ ไปที่มีความพร้อม


นายกรณ์ ยังกล่าวถึงมาตรการเยียวยาด้านเศรษฐกิจในสถานการณ์โควิด-19 ของรัฐบาลจำนวนกว่า 4 หมื่นล้านบาทว่า สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ แต่ไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับความเดือนร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เพราะส่วนใหญ่ต้องการให้บริหารจัดการให้สามารถกลับไปทำมาหากินและใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว หากเทียบกับงบประมาณและมาตรการเยียวยาปีที่แล้ว พบว่าวันนี้ประชาชนมีความเดือดร้อนมากกว่า แต่เม็ดเงินเยียวยากลับน้อยกว่าเดิม ขณะที่แผนการฉีดวัคซีนคาดว่าน่าจะล่าช้าจากเดิมที่ตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ครบ 100 ล้านโดสสิ้นปี รัฐบาลจึงต้องเตรียมเงินเยียวยาให้เพียงพอ จัดสรรให้ถูกต้อง รื้อแผนงบประมาณปี 2565 และ งบ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่กู้มาเพื่อโควิดโดยเฉพาะ ต้องตอบโจทย์ความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ได้รับผลโดยตรงจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งรัฐจะปฏิเสธภาระหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลไม่ได้

“มาตรการเยียวยาที่รัฐบาลจะเยียวยา 50% ของรายได้ สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกกองทุนประกันสังคม สูงสุด 7,500 บาท รัฐบาลสมทบอีก 2,500 มองว่าเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำเท่านั้นเอง ซึ่งไม่เพียงพอถ้าเทียบกับโอกาสที่ประชาชนได้ออกไปทำมาหากินใช้ชีวิตปกติ มาตรการที่ช่วยเหลือ 1 เดือนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ขาดโอกาสทำมาหาค้าขายกว่า 1 ปีแล้ว จะมาชดเชย 3,000 บาท ต่อจำนวนลูกจ้างที่มีก็ไม่เพียงพออีก เพราะฉะนั้นมีอีกหลายเรื่องที่รัฐบาลทำได้ โดยไม่ต้องเจรจากับใคร เช่น ควรงดเว้นการจัดเก็บภาษีย้อนหลัง เพิ่มเงินสดที่อยู่ในมือผู้ประกอบการ ลดค่าใช้จ่ายทั้งภาษีทั้งค่าจ้าง ซึ่งพรรคกล้าเคยแนะนำมาโดยตลอด ให้รัฐช่วยออกเงินเดือนให้ครึ่งหนึ่ง 3-4 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการวางแผนได้ จะได้ไม่ต้องปลดคนออก ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้และต้องเร่งทำ” นายกรณ์ กล่าว


หัวหน้าพรรคกล้า ยังย้ำถึงมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐบาลว่า เป็นมาตรการที่เจ็บแต่ไม่จบ เพราะมาตรการไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชน ตราบใดที่ยังไม่ลงไปตรวจให้ทั่วถึง แล้วแยกผู้ติดเชื้อออกจากผู้ที่ไม่ติดเชื้อ หากไม่ทำแบบนี้ จะไม่มีทางลดอัตราการแพร่เชื้อลงได้ นี่คือสาเหตุที่มาของศูนย์กล้าดูแลที่พรรคกล้ามาทำร่วมกันกับชุมชนโครงการร่วมกันสร้าง เพราะการแยกชาวบ้านออกจากผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ เป็นวิธีการตัดวงจรการแพร่เชื้อ ช่วยชาวบ้านที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบรักษาพยาบาล หรือเข้าถึงเตียงในระบบสาธารณสุขได้ ลดภาระระบบสาธารณสุข ที่ตอนนี้หนักมาก ในขณะเดียวกันยังสะท้อนให้เห็นความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งพรรคกล้าสนับสนุนระบบการบริหารจัดการ ปัจจัยต่างๆที่พี่น้องประชาชนร่วมบริจาคเพื่อให้เราสร้างศูนย์แบบนี้ขึ้นมา ตอบโจทย์ชุมชนเมือง เพราะที่อยู่อาศัย ไม่สามารถ Home Isolation หรือแยกตัวออกจากครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ติดเชื้ออยู่ห่างไกลจากครอบครัว ชาวชุมชนหรือสมาชิกครอบครัว สามารถทำอาหารมาส่งให้ที่หน้าศูนย์ ไม่มีความกังวลว่าต้องพลัดไปอยู่ศูนย์พักคอยหรือโรงพยาบาลสนามที่อยู่ห่างไกล และย้ำว่า พรรคกล้าพร้อมให้ความร่วมมือกับชุมชนที่สนใจทำโครงการนี้

นายกรณ์ ยังกล่าวถึงการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย Rapid Antigen Test ที่พรรคกล้าเคยเสนอไปแต่แรกว่าต้องเปิดให้ประชาชนสามารถตรวจตัวเองได้ว่า ตอนนี้รัฐบาลเริ่มผ่อนคลาย เริ่มยอมรับเรื่องการตรวจ แต่ไม่ให้ตรวจด้วยตนเอง ต้องไปตรวจที่ศูนย์ของราชการ ซึ่งมองว่าไม่สมเหตุสมผล หากชาวบ้านมีอาการที่ส่อให้เห็นว่ามีโอกาสสูงที่อาจจะเป็นโควิด และตรวจด้วย Rapid Antigen ด้วยตนเองแล้วพบว่าผลเป็นบวก ทางราชการน่าจะยอมรับผลเพื่อนำเขาเข้าระบบรักษาพยาบาลได้ การบังคับไปตรวจที่ศูนย์อาจสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น อย่ากลัวจำนวนผู้ติดเชื้อที่จะเพิ่มขึ้น รู้ดีกว่าไม่รู้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ