เมืองทองธานี 1 มี.ค.-นายกรัฐมนตรี ย้ำรัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน เน้นจัดระเบียบเจ้าหนี้ การสร้างวินัยทางการเงิน พัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน” ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า โครงการนี้เป็นการประกาศเจตนารมย์อย่างชัดเจนว่ารัฐบาลจะต้องช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้หลุดพ้นจากหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ ซึ่งไม่ใช่การยกหนี้ให้ แต่เป็นการนำหนี้เข้ามาสู่ระบบบริหารจัดการใหม่
“หนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลพยายามผลักดันโครงการเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนตามลำดับ โดยดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน สร้างการบูรณาการอย่างยั่งยืนคำนึงถึงทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลต้องการให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินที่เป็นธรรมควบคู่กับมีความเข้มแข็งในการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม และเดินหน้าแก้ปัญหาและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งระบบ เพื่อให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้หมดไปได้อย่างยั่งยืน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางสำคัญคือการจัดระเบียบเจ้าหนี้ การสร้างวินัยทางการเงิน และการพัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง พร้อมฝากประชาชนมาลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการของรัฐหรือการมาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย จากข้อมูลในปี 2559 ที่มีอยู่ประมาณ 7 ล้านราย ซึ่งจะทำให้รัฐบาลจัดสรรการดูแลได้ทั่วถึงและตรงจุด รัฐบาลพร้อมที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อร้องเรียนหนี้นอกระบบ โดยให้ส่งไปยังทำเนียบรัฐบาล และรัฐบาลจะสั่งการอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันย้ำความจำเป็นการใช้มาตรา 44 ที่ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
“ขอให้ประชาชนนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง เพื่อนำตนเองไปสู่ยุค 4.0 ภายใต้ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดี และมีความพอประมาณ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประชาชนต้องมีหลักคิดในการประกอบอาชีพ อย่าใช้ความรู้สึกตัดสิน ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหา และขอให้ประชาชน เคารพกฎหมาย แต่อย่ากล่าวอ้างแค่เรื่องหลักสิทธิมนุษยชน โดยไม่เคารพกฎหมาย แต่ขอให้นำมาร่วมกันเพื่อให้เดินหน้าไปด้วยกันได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณบริษัทผู้ประกอบการ 6 แห่งที่เข้ามาร่วมโครงการบริษัทปล่อยสินเชื่อรายย่อยหรือพิโกไฟแนนซ์ของรัฐบาล แม้จะเป็นส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น รัฐบาลต้องการให้ผู้ที่ดำเนินธุรกิจให้เงินกู้นอกระบบเข้าร่วมในโครงการ เพื่อให้เกิดความร่วมมือและความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายในการให้เงินกู้ พร้อมมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับผู้ที่ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดและดำเนินกับทุกรายแม้ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ตาม
นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้ผู้ประกอบการหนี้นอกระบบ ไม่คิดอัตราดอกเบี้ยที่มากเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด ซึ่งหากทำผิดรัฐบาลก็ต้องดำเนินการตามกฏหมาย ทุกคนต้องร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์ปฏิบัติตามกฎหมาย และขออย่าติติงการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบใบอนุญาตการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ภายใต้การกำกับสินเชื่อ พิโกไฟแนนซ์ แก่ผู้ประกอบการธุรกิจ 6 ราย และเป็นสักขีพยานในการมอบสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ และเยี่ยมชมการจัดแสดงนิทรรศการ.-สำนักข่าวไทย