กรุงเทพฯ 14 พ.ค.- CEO ปตท.เผยผลดำเนินการไตรมาส 1 ปี 2564 มีรายได้ 477,837 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32,587.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลดำเนินงานดีขึ้น
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่าผลดำเนินการไตรมาส 1 ปี 2564 มีรายได้ 477,837 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 32,587.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท เนื่องจากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลดำเนินงานดีขึ้น อย่างไรก็ตามในส่วนของรายได้ ที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.2 % ส่วนใหญ่จากรายได้ของธุรกิจน้ำมันที่ลดลงตามปริมาณขายที่ลดลงจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงรายได้ของกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ปรับลงตามราคาขายเฉลี่ยของก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลง ในขณะที่รายได้ของกลุ่มปิโตรเคมี–การกลั่น-ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ตามราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และมาร์จินปิโตรเคมีที่สูงขึ้น อีกทั้งกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานดีขึ้น จากต้นทุนก๊าซฯ ที่ลดลงและราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น
ส่วนราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของทั่วโลกนั้น ซีอีโอ ปตท.ประเมินว่าราคาจากนี้คงจะอยู่ที่ประมาณ 60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เพราะกลุ่มโอเปกพลัสและสหรัฐก็พร้อมจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจึงทำให้ราคาคงจะไม่เพิ่มสูงนัก
ส่วนสถานการณ์ราคาหุ้น กลุ่ม ปตท.ทั้งกลุ่มในขณะนี้ ที่ยังไม่ปรับขึ้นมากนัก แม้ผลประกอบการทั้งกลุ่มในไตรมาส 1 จะออกมาดี ไม่ว่า จะเป็นธุรกิจต้นน้ำ กลาง น้ำและปลายน้ำ นั้น เรื่องนี้ไปฟังมุมมอง จากผู้บริหาร ปตท.-สำนักข่าวไทย