กรุงเทพฯ 1 เม.ย. – ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เผยภาคเอกชนมีความกังวลจากสถานการณ์ในเมียนมา จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากปัจุบันมีผู้ประกอบการไทยจำนวนมากเข้าไปลงทุนในเมียนมา และเป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทย
นายกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทย เรื่องของผลกระทบด้านการค้าไทย-เมียนมา ระบุว่า ภาคเอกชนไทยค่อนข้างมีความกังวลต่อสถานการณ์ในเมียนมา เนื่องจากประเมินว่าจะทำให้เศรษฐกิจของเมียนมาหยุดชะงักลงทันที ซึ่งจะส่งผลต่อกระทบต่อไทย เพราะมีผู้ประกอบการไทยเข้าไปทำธุรกิจในเมียนมา ประมาณ 400-500 ราย ส่วนใหญ่เป็น SME ทำให้ขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะการค้าการลงทุนหยุดชะงัก รวมไปถึงธนาคาร ที่ส่วนใหญ่จะปิดทำการ ผู้ประกอบการที่ส่านมากต้องพึ่งพากระแสเงินสดจากการค้าขาย และมีการโอนเงินไปมาระหว่างไทย-เมียนมา แต่ในสถานการณ์นี้ไม่สามารถทำการโอนเงินได้ตามระบบธนาคารปกติ บางรายที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กโทรเข้ามาปรึกษาบอกว่าขณะนี้การที่ไม่มีเงินหมุน ทำให้มีเงินเหลือจ่ายเงินเดือนพนักงานในร้านอีกเพียง 2 เดือน ตรงนี้น่าเป็นห่วงมากกับกลุ่มผู้กอบการเล็กๆ จึงอยากให้ภาครัฐไทยเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการไทยที่ทำการค้าในเมียนมา โดยเฉพาะการช่วยเหลือเรื่องการเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือ Soft loan เพื่อให้ธุรกิจมีเงินหมุนเวียนต่อไปได้ และความช่วยเหลือเรื่องของภาษี
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหากสถานการณ์สงบลงจะเป็นโอกาสของไทยในการเข้าไปทำการค้าขายในเมียนมา โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค โดยคาดว่าเมียนมาน่าจะต้องพึ่งพาสินค้าของไทยจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย