ครูฝึกคุมฐานหลบระเบิดค่ายลูกเสือยันไม่ได้บังคับเด็กลงน้ำ

กาฬสินธุ์ 18 มี.ค.-ครูฝึกคุมฐานหลบระเบิดค่ายลูกเสือ จ.กาฬสินธุ์ ยืนยันไม่ได้บังคับเด็กลงน้ำ ถามความสมัครใจแล้ว เชื่อเด็กไม่ได้จมน้ำช่วงร่วมกิจกรรม เพราะมีคนอยู่เยอะต้องมีคนเห็น

จากกรณีนายทองนพเก้า สีทา หรือ “น้องปอนด์” อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนนาค้อวิทยาคม ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จมน้ำเสียชีวิตในหนองน้ำสาธารณะที่อยู่ติดกับโรงเรียน หลังจากร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ ขณะเข้าฐาน “หลบระเบิด” ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กดำน้ำ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยทางญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากไม่ควรให้เด็กลงน้ำและไม่มีอุปกรณ์ป้องกันช่วยเหลือ กระทั่ง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง

ล่าสุดเมื่อเวลา พ.ต.อ.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานบริเวณหนองน้ำสาธารณะที่เป็นจุดเกิดเหตุน้องปอนด์จมน้ำเสียชีวิต ซึ่งเป็นสถานที่จัดกิจกรรมจากโรงเรียนประมาณ 20 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์พบว่าจุดที่พบศพของน้องปอนด์ห่างจากฝั่ง 8 เมตร มีความชันและลึกประมาณ 3 เมตรลักษณะเป็นแอ่งกระทะ อยู่ใกล้กับจุดที่นักเรียนลงน้ำร่วมกันกิจกรรมฐานหลบระเบิด ซึ่งเป็นกิจกรรมฐานที่ 6 ที่หนีสงครามหลบระเบิด โดยให้เด็กนักเรียนลงไปในหนองน้ำ เพื่อฝึกดำน้ำ โดยมีครูโยนก้อนโคลนจำลองเหตุการณ์หลบระเบิด

นางสุรีย์ นามเทพ ครูชำนาญการพิเศษ ครูผู้ดูแลฐาน กล่าวว่า การเข้าฐานหลบระเบิด เป็น 1 ใน 6 ฐานของกิจกรรมค่ายลูกเสือที่โรงเรียนจัดขึ้น โดยแต่ละฐานจะมีครูผู้ดูแลควบคุมฐานละ 2 คน ซึ่งจัดกิจกรรมฐานหลบระเบิด มีตนและครูอีกคนดูแลควบคุม โดยก่อนที่นักเรียนทุกกลุ่มจะลงไปในน้ำ ครูได้เช็กความพร้อม และสอบถามว่าใครมีปัญหาโรคประจำตัว หรือใครว่ายน้ำไม่เป็น หากใครสมัครใจอยากลงก็ลงได้ ไม่ได้บังคับ

ขณะที่ นายณรงค์ รัตนบุตร ครูชำนาญการพิเศษผู้ดูแลฐานอีกคน เล่าสาเหตุที่ต้องให้เด็กลงน้ำ เนื่องจากเด็กๆชอบและสนุก ส่วนกลุ่มของน้องปอนด์นั้นมีประมาณ 7-8 คน มาถึงฐาน พร้อมกับกลุ่มของนักเรียนชั้น ป.4 ป.5 และ ป.6 ซึ่งไม่ได้เช็กจำนวนอีกรอบ เพราะฐานบัวตูมบัวบานที่อยู่ใกล้กันเช็กแล้ว อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการที่น้องปอนด์จมน้ำเสียชีวิตนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงที่ร่วมกิจกรรม เพราะหากจมน้ำในตอนนั้น จะต้องมีคนเห็น เนื่องจากมีครูเฝ้าอยู่และมีเพื่อนๆ อยู่ด้วยหลายคน สำหรับฐานหลบระเบิดนั้น ได้สมมุติเป็นเหตุการณ์กำลังหนีภัยสงคราม ให้นักเรียนเดินเลียบตามตลิ่งข้ามแม่น้ำไปอย่างเงียบๆ แต่หากเสียงดังข้าศึกก็จะรู้และจะโยนระเบิดลงมา โดยครูจะปั้นโคลนจำลองเป็นระเบิดโยนลงไป ซึ่งก่อนทำกิจกรรมตนได้แจ้งให้เด็กเรียนว่าหากใครไม่พร้อมก็ไม่ต้องลงน้ำ

ขณะที่บรรยากาศที่ หมู่ 11 ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ “น้องปอนด์” ยังคงมีเพื่อนบ้านเดินทางมาร่วมงานศพและให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อ แม่ และญาติ ซึ่งญาติจะทำพิธีฌาปณกิจในวันพรุ่งนี้

นางบัวรื่น สีทา อายุ 48 ปี แม่ของ “น้องปอนด์” กล่าวว่า ตอนนี้ครอบครัวยังทำใจไม่ได้ ซึ่งเท่าที่สอบถามเพื่อนของลูกชายทราบว่าระหว่างที่ลงน้ำเห็นน้องปอนด์ แต่ขณะขึ้นมากลับไม่เห็น ซึ่งทางครูและโรงเรียนไม่น่าที่จะจัดกิจกรรมมีความเสี่ยงจนลูกชายเสียชีวิตในครั้งนี้

ซึ่งในเรื่องคดี หลังเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว ผกก.สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นยังไม่ได้เรียกใครมาสอบปากคำ เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดยังไม่พร้อม ทั้งผู้ปกครองเด็กที่เสียชีวิต และคณะครู เพราะทุกคนยังช่วยงานศพ คาดว่าหลังจากทำพิธีฌาปณกิจในวันพรุ่งนี้แล้ว พนักงานสอบสวนจะเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำต่อไป.-สำนักข่าวไทย