สภาล่างสหรัฐผ่านกฎหมายเยียวยาโควิด 1.9 ล้านล้านดอลลาร์

สหรัฐ 11 มี.ค. – สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ก้อนโต 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ฯ พร้อมจ่ายให้ประชาชนโดยตรง คนละ 1,400 ดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 43,000 บาท


ร่างกฎหมายเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผ่านอุปสรรคในขั้นตอนสุดท้ายของรัฐสภาไปได้อย่างไม่เป็นปัญหา เมื่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ หรือสภาล่าง ลงมติรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ด้วยคะแนนเสียง 220-211 เสียง ในวันพุธ โดยไม่มีสมาชิกของพรรครีพับลิกันออกเสียงสนับสนุนแม้แต่คนเดียว นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญครั้งแรกของประธานาธิบดีไบเดน ในการบริหารประเทศ

เงินจำนวนมหาศาลนี้ แบ่งเป็น 400,000 ล้านดอลลาร์ฯ เพื่อช่วยเหลือโดยตรงให้ชาวอเมริกัน คนละ 1,400 ดอลลาร์ฯ ส่วนอีก 350,000 ล้านดอลลาร์ฯ เป็นเงินช่วยเหลือรัฐบาลส่วนท้องถิ่นและของรัฐต่างๆ นอกจากนี้จะขยายเวลาให้เงินช่วยเหลือคนตกงานอีกสัปดาห์ละ 300 ดอลลาร์ฯ ไปจนถึงเดือนกันยายน พร้อมเพิ่มเงินทุนสำหรับการแจกจ่ายวัคซีน เพิ่มส่วนลดภาษีสำหรับครอบครัวที่มีบุตร และช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19


การผ่านร่างกฎหมายเยียวยาโควิด-19 ในสภาล่าง ซึ่งมีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก โดยไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากพรรครีพับลิกันเลยแม้แต่เสียงเดียว มีขึ้นหลังทั้ง 2 สภาฯ อภิปรายและต่อรองกันนานหลายสัปดาห์ ซึ่งพรรคเดโมแครต ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้เป็นมาตรการรับมือสำคัญต่อการระบาดของโควิด-19 ที่คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วมากกว่า 528,000 คน และทำให้ผู้คนตกงานหลายล้านคน ขณะที่ฝั่งพรรครีพับลิกัน ระบุว่า มาตรการนี้ค่าใช้จ่ายสูงเกินไปและสิ้นเปลือง เนื่องจากช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดของวิกฤติสุขภาพครั้งใหญ่สุดในรอบ 100 ปี ส่วนใหญ่ผ่านพ้นไปแล้ว และเศรษฐกิจกำลังเดินหน้าสู่ความแข็งแกร่งต่อไป

ทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดน มีแผนการลงนามในกฎหมายฉบับนี้ เพื่อบังคับใช้ในวันศุกร์ที่ 12 มีนาคมนี้ ก่อนที่สิทธิประโยชน์ของผู้ว่างงานจากรัฐบาลกลางในรอบปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันที่ 14 มีนาคมนี้ มาตรการบรรเทาทุกข์ชุดล่าสุดนี้ ถือเป็นชุดที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในอเมริกา ตั้งแต่ต้นปีก่อน และเป็นชุดแรกภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการทำงานของรัฐสภาชุดใหม่ที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก แม้ว่าร่างกฎหมายนี้จะไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันเลยก็ตาม. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนน้ำโขงลด ขับเรือต้องระวัง

น้ำโขงที่ จ.หนองคาย ลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1.20 เมตร พระธาตุกลางน้ำโผล่ชัด ชาวบ้านลงเรือสักการะขอพร คนเรือต้องขับเรือระมัดระวังมากขึ้น

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง