ทำเนียบรัฐบาล 1 ก.พ.- “วิษณุ” ยันคดีเรียกเงินคืนผู้สูงอายุ โทษทางแพ่งไม่ถึงขั้นติดคุก ชี้ต้องตรวจสอบรายบุคคลกรณีลาภมิควรได้ประเด็นพฤติกรรมสุจริต เชื่อ บางคนรับเงินโดยโดยไม่ตั้งใจ เตรียมเรียกข้าราชการสอบด้วยมีส่วนทำผิดหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการเรียกเก็บเงินเบี้ยคนชราคืนที่มีผู้เสียหายจพำนวนหลายร้อยคนว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังหารือในการหาทางออกเรื่องนี้ เชื่อว่า มีความคืบหน้า แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรณีที่นักกฎหมายให้ความเห็นว่า เป็นลาภที่ไม่ควรได้เกินอายุนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เข้าใจได้และเป็นหลักตามมาตรา 412 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกี่ยวกับลาภมิควรได้ ซึ่งกำหนดไว้อยู่แล้ว แต่ปัญหาคือการได้เงินจะต้องสุจริต ที่ต้องขึ้นอยู่กับการตรวจสอบและตีความ เพราะเชื่อว่า บางคนได้รับเงินโดยมีพฤติกรรมสุจริต แต่กับอีกหลายคน ตนไม่ทราบว่า มีพฤติกรรมสุจริตหรือไม่ เพราะมีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน ต้องตรวจสอบเป็นรายบุคคล ทั้งนี้ การดำเนินการตามกฎหมาย ถือเป็นคดีทางแพ่ง ไม่มีความผิดถึงขั้นต้องติดคุก
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องเรียกข้าราชการที่ไปชี้แจงกับผู้สูงอายุมาตรวจสอบด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้รับเงินโดยไม่สุจริตหรือไม่ เพราะในอดีตเคยมีการจ่ายเงินของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่พบการทุจริตและมีข้าราชการไปเกี่ยวข้องหรือแม้แต่คดีเงินทอนวัดเช่นเดียวกัน พร้อมย้ำว่าเรื่องดังกล่าวขออย่าตื่นเต้น ตกใจ หากมั่นใจว่าดำเนินการทุกอย่างโดยสุจริต.-สำนักข่าวไทย