เร่งเอาผิดอดีตพระขโมยทองคำโบราณ

พะเยา 25 ม.ค. – ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับอดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดไผ่สีทอง หลังพบว่าร่วมกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและผู้รับเหมา นำทองโบราณที่ขุดพบได้ภายในวัดขณะบูรณะ น้ำหนักกว่า 1.2 กก. ไปขายแล้วแบ่งเงินกัน


พ.ต.อ.สมาน จิตบุญ ผู้กำกับการ สภ.จุน อ.จุน จ.พะเยา พร้อมตำรวจ สภ.จุน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.พะเยา เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีการก่อสร้างศาลาปฏิบัติธรรมของวัดไผ่สีทอง ต.หงส์หิน อ.จุน จ.พะเยา หลังผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านเข้าร้องทุกข์และแจ้งความกับนายสุชาติ สมคิด อดีตพระรักษาการเจ้าอาวาสวัดสีทอง นายประสิทธิ์ ภักดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 และช่างหนุ่ย ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารศาลาปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นของวัดไผ่สีทอง ได้นำทองคำโบราณ เป็นก้อนน้ำหนักกว่า 1.2 กิโลกรัม ที่พบภายในบริเวณวัด หลังจากที่มีการบูรณะเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แล้วนำไปขายได้รวมกว่า 1,160,000 บาท โดยนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน โดยที่ชาวบ้านไม่รับทราบ จนล่าสุดชาวบ้านเห็นอดีตพระโพสต์รูปภาพทองคำดังกล่าวลงในโซเชียลให้กับผู้สนิทใกล้ชิด จึงเข้าแจ้งความ เนื่องจากทองคำดังกล่าวถือว่าเป็นสมบัติของทางวัด จึงไม่สามารถที่จะนำไปจำหน่ายและแบ่งปันกับผู้หนึ่งผู้ใดได้

นายสงกรานต์ ศิริวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 บ้านไผ่สีทอง ต.หงส์หิน อ.จุน ระบุว่า วัดได้มีการบูรณะเพื่อจะสร้างศาลาปฏิบัติธรรม มีการขุดลำน้ำบริเวณโดยรอบ และพบว่า อดีตพระสุชาติ ซึ่งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส ได้พบก้อนทอง น้ำหนักรวม 1.2 กิโลกรัม เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ต่อมาได้ร่วมกับช่างที่รับเหมาและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นำทองดังกล่าวไปจำหน่ายที่ อ.เชียงคำ ได้ราคา 1,160,000 บาท จากนั้นก็นำเงินมาแบ่งกัน โดยให้ช่างผู้รับเหมา 300,000 บาท และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน 300,000 บาท ที่เหลือพระรูปดังกล่าวได้เก็บไว้ และนำไปสร้างศาลาปฏิบัติธรรมประมาณ 200,000 บาท ซึ่งพระรูปดังกล่าวเพิ่งสึกไปเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยชาวบ้านต้องการเรียกร้องให้นำทองกลับมาคืนวัด เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน เนื่องจากคาดว่าทองดังกล่าวเป็นหัวใจพระเจ้า ซึ่งเป็นทองโบราณอยู่คู่กับวัด พร้อมเรียกร้องให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้ง 3 คน


ภายหลังการสอบสวน ผู้กำกับการ สภ.จุน เปิดเผยว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว โดยจะดำเนินคดีกับบุคคลทั้งสาม และขยายผลว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ หากพบเพิ่มจะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก