กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – ปั๊มน้ำมันโอดยอดขายหด ร้อยละ 20-50 ด้าน ปตท.แจ้งลูกค้าเตรียมเยียวยา ด้าน ก.พลังงาน สรุปข้อเสนอช่วยเหลือเสนอ ครม.เป็นแพ็กเกจใหญ่พรุ่งนี้ เครือจิงโจ้ กลุ่มชุมพร วอนแบงก์พักชำระเงินต้นต่อ หากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย 25 ม.ค.นี้ อาจกระทบพนักงาน 600 ราย
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ได้เตรียมมาตรการเยียวยาผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับจากการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ และเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยนายกรัฐมนตรี จะแถลงแพ็กเกจเองทั้งหมดของทุกหน่วยงานที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานได้เตรียมข้อมูลด้านการใช้พลังงาน ซึ่งพบว่าในช่วงเดือนธันวาคม ยอดใช้ไม่ได้ลดลง แต่ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2564 ว่าเป็นอย่างไร ทั้งยอดใช้ไฟฟ้าและน้ำมัน เพราะต้องยอมรับว่า จากการระบาดในหลายจังหวัด มีการประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด และพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดอีก 5 จังหวัด รวมทั้งมีความร่วมมือทำงานที่บ้าน จึงทำให้การเดินทางลดน้อยลง
ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงาน เร่งการลงทุนของหน่วยงานที่กำกับดูแล ทั้ง บมจ.ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย งบกองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน (กทอ.) ปี 2564 วงเงิน 6,500 ล้านบาท ก็ได้ออกประกาศให้หน่วยงานต่างๆ เสนองบฯ มาแล้ว และจะมีวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมระหว่าง รมว.พลังงาน และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ในเร็วๆ นี้ เพื่อทำความเข้าใจการเสนอและพิจารณางบฯ โดยเฉพาะกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานเศรษฐกิจฐานราก ที่มีกรอบการจัดสรรเงินให้ทุกจังหวัด จังหวัดละ 25 ล้านบาท โดยมีคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทำหน้าที่กลั่นกรองและเรียงลำดับความสำคัญโครงการ เพื่อเสนอให้กองทุนฯ พิจารณาอนุมัติ ซึ่งตามแผนแล้ว งบฯ ทั้งหมดจะเริ่มลงทุนภายในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 150 เมกะวัตต์ ขณะนี้มีการปรับแก้รายละเอียดเล็กน้อย คาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะเห็นชอบและออกประกาศรับซื้อในเร็วๆ นี้
นายวิทูรย์วิทย์ ปิยะณัตดิ์พูล ประธานกรรมการเครือจิงโจ้กรุ๊ป จ.ชุมพร ซึ่งประกอบธุรกิจปั๊มน้ำมัน ปั๊มแอลพีจี โรงแรม และเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ทั้งใน จ.ชุมพร และระนอง เปิดเผยว่า ในกลุ่มมีพนักงานรวม 600 คน ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โรงแรม 3 แห่งใน จ.ชุมพร แทบจะไม่มีลูกค้าเลย เพราะ จ.ชุมพร เป็นหนึ่งในพื้นที่ควบคุม แม้ไม่มีคนติดเชื้อโควิด-19 ในส่วนของยอดขายน้ำมัน จ.ชุมพร หายไปร้อยละ 20 ส่วน จ.ระนอง มีการปิด 4 เส้นทางคุมเข้ม ยอดขายน้ำมันลดลงถึงร้อยละ 30 ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มยังไม่มีการปลดคนงาน แต่ใช้วิธีการบริหาร ไม่มีโอที หากมีพนักงานลาออกก็ไม่รับเพิ่ม และสำรวจยอดขาย อาจจะใช้แนวทางสลับกันทำงาน เพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งหากยังไม่มีมาตรการใดมาช่วยเหลือ และเหตุการณ์ลากยาวไปถึง 25 ม.ค.นี้ ทางกลุ่มก็คงจะต้องมีการประกาศมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้อยู่รอด
“คนงานของกลุ่มจิงโจ้มี 600 คน ค่าแรงเดือนละ 9 ล้านบาท มีหนี้กับทางธนาคารต่างๆ ซึ่งโควิดปี 63 ทางธนาคารพาณิชย์เข้ามาช่วย และจวนพ้นระยะเวลาการยืดชำระเงินต้น ก็หวังว่าจะมีการช่วยเหลือต่อ ขอแค่พักชำระเงินต้น ขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยไปก่อน ทางธนาคารก็ไม่เสียหายอะไร เพียงแต่ได้คืนต้นช้า ทางเอกชนก็จะมีเงินจากยอดขายมาหมุนเวียนเป็นสภาพคล่องได้บ้าง ส่วนผู้ค้าน้ำมัน เช่น บมจ.ปตท. ล่าสุดแจ้งว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือ โดยขอรอให้รัฐบาลประกาศมาตรการชัดๆ ออกมา ซึ่งรอบที่แล้ว ปตท.ได้ช่วยลิตรละ 50 สต. เป็นเวลา 2 เดือน สำหรับยอดขายเฉลี่ยที่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.63” นายวิทูรย์วิทย์ กล่าว
นายวิทูรย์วิทย์ กล่าวด้วยว่า ปั๊มน้ำมันทั่วประเทศรับทราบว่า แต่ละพื้นที่ยอดขายหดหายไม่เท่ากันแต่ละแห่ง เช่น ที่นครราชสีมา ระบุชัดช่วงต้นปีนี้เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่เป็นเทศกาลปีใหม่ คนเดินทางท่องเที่ยว กลับบ้านกันอย่างคึกคัก ยอดขายน้ำมันลดลงถึงร้อยละ 50 ซึ่งทางสมาคมผู้ค้าน้ำมันจะหารือกันในเร็วๆ นี้ว่า จะเสนอให้ภาครัฐช่วยเหลืออะไรบ้าง ในส่วนของตนขอยกตัวอย่างโรงแรมจิงโจ้โฮเต็ล อ.หลังสวน จ.ชุมพร มี 87 ห้อง ปกติมีผู้ใช้บริการขั้นต่ำ 40 ห้อง ตั้งแต่โควิดระบาดรอบนี้ก็เหลือเลขหลักเดียว แต่ละคืนมีผู้ใช้บริการไม่เกิน 10 ห้อง
โรงแรมหาดละแมรีสอร์ท มี 59 ห้อง ปกติคนเข้าพักไม่ตำกว่า 15 ห้อง ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะมี 30 ห้องขึ้นไป แต่ปัจจุบันเหลือเลขหลักเดียว ไม่เกิน 5 ห้อง เมื่อคืนที่ผ่านมา มี 1 ห้อง และแนวโน้มจะเป็นศูนย์ในเร็วๆ นี้ ซึ่งโควิดปี 63 รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ ก็เป็นเงื่อนไขในการดูแลคนงานได้ แต่รอบนี้ไม่ล็อกดาวน์ แต่เป็นพื้นที่คุมเข้ม ก็ยิ่งกระทบต่อผู้ประกอบการที่มีภาระในการดูแลคนงานและการเจรจากับเจ้าหนี้
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่ายอดขายน้ำมันอาจไม่โตตามเป้าหมายที่คาดว่าปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 20 เมี่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากผลกระทบโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่มั่นใจยังทำกำไรอย่างแน่นอน และบริษัทฯ เตรียมงบลงทุนในปีนี้ไว้ที่ 550 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการขยายสถานีเพิ่มเติมอีก 20 สถานี จากปัจจุบันอยู่ที่ 242 แห่ง เน้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นหลัก รวมทั้งจะมีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของสถานีเดิมอีก 50 แห่ง พร้อมทั้งขยายธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจน้ำมัน (Non-Oil) เช่น ร้าน Lawson 108 อีก 10 แห่งในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 38 สาขา
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บางจากฯ ตั้งงบลงทุนกลุ่มธุรกิจการตลาด ในปี 2564 อยู่ที่ 1,500 ล้านบาท สำหรับขยายสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) ใหม่ จำนวน 100 แห่ง จากสิ้นปี 2563 มีจำนวนปั๊ม 1,240 แห่ง และเพิ่มเป็น 1,400 แห่ง ภายใน 5 ปี (ปี 2568) รวมถึงขยายการเติบโตในธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) เช่น ร้านค้าสะดวกซื้อ มีแผนขยายสาขาร้านกาแฟอินทนิลต่างประเทศเพิ่มเติม แต่ยอมรับโควิด-19 รอบใหม่ ทำให้เกิดผลกระทบลงทุนล่าช้า ปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาอินทนิลในลาว 3-5 สาขา จากปัจจุบันมีเพียง 1 สาขา และเปิดเพิ่มเติมในกัมพูชา จากปัจจุบันมีประมาณ 7 สาขา. – สำนักข่าวไทย