ตร. เตือนอย่าสร้างข่าวปลอม ซ้ำเติมช่วงโควิด-19

10 ม.ค.-รอง โฆษก ตร. เตือนอย่าซ้ำเติมช่วงโควิด-19 ด้วยการสร้างข่าวปลอม ฝากประชาชนก่อนแชร์ข้อความควรตรวจสอบให้ดี เพราะอาจตกเป็นเหยื่อหรืออาจสร้างความสับสนแก่ผู้อื่น

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กล่าวถึง กรณีที่มีการแชร์ หรือส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือเฟคนิวส์ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น


ขอเรียนให้ทราบว่า ที่ผ่านมายังคงพบว่ามีการนำเข้า ส่งต่อ หรือแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนข้อมูล ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะข้อความในลักษณะที่ทำให้ประชาชนและสังคมเกิดความสับสน ตื่นตระหนก ในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยกตัวอย่าง เช่น มีเฟคนิวส์หลอกว่า Line Official ที่ชื่อว่า Away Covid-19 หลอกลวงขอข้อมูลจากผู้ใช้บริการ ห้ามเพิ่มเพื่อนเด็ดขาด แต่ได้รับการยืนยันจากผู้พัฒนาแล้วว่าข้อความที่แชร์ดังกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง ไม่มีการหาผลประโยชน์ใดๆ จากผู้ใช้บริการ

การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “ นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ” ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (2) โดยสำหรับผู้แชร์ หรือ ส่งต่อข้อความในลักษณะดังกล่าว มีความผิดฐาน “ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่น่าจะเกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชนฯ ” มาตรา 14 (5) ทั้งสองอนุมาตรา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


รอง โฆษก ตร. และโฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่า อย่าซ้ำเติมประชาชนด้วยการสร้างข่าวปลอมในลักษณะดังกล่าว ให้หยุดการกระทำนั้นเสีย ทุกภาคส่วนกำลังเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ และฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า ก่อนจะแชร์ หรือส่งต่อข้อความใดๆ ควรตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะอาจตกเป็นเหยื่อ หรือถูกหลอกลวง หรืออาจไปสร้างความสับสน เกิดความตื่นตระหนกแก่ผู้อื่น ซึ่งอาจเป็นความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำและปรับ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้กำชับสั่งการให้ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง นำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้