สำนักงานปภ. 7 ธ.ค.-ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ระดับน้ำเริ่มลดลง ประสานหน่วยเกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย ช่วยเหลือผู้ประสบภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากและวาตภัยในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 101 อำเภอ 560 ตำบล 4,130 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 555,194 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 24 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสงขลา ระดับน้ำลดลง
ทั้งนี้ อิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน – ปัจจุบัน (7 ธ.ค.)
จ.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมขังในพื้นที่ 18 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอชะอวด อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอปากพนัง อำเภอหัวไทร อำเภอท่าศาลา อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งสง อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอทุ่งใหญ่ อำเภอบางขัน อำเภอฉวาง อำเภอพรหมคีรี อำเภอถ้ำพรรณา และ อำเภอช้างกลาง รวม 83 ตำบล 608 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 184,750 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
จ.ตรัง น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง อำเภอนาโยง อำเภอห้วยยอด อำเภอรัษฎา อำเภอ วังวิเศษ และอำเภอกันตัง รวม 23 ตำบล 99 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,968 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง จ.พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน และอำเภอบางแก้ว รวม 22 ตำบล 99 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 46,284 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
.สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอบางกล่ำ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอระโนด อำเภอควนเนียง และอำเภอสทิงพระ รวม 32 ตำบล 160 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,867 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย พื้นที่ใกล้เคียงพื้นที่อื่น ๆ สนับสนุนการเผชิญเหตุ โดยระดมกำลังพลและทรัพยากรด้านสาธารณภัย อาทิ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือไฟเบอร์ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถสุขาเคลื่อนที่ รถประกอบอาหาร รถไฟฟ้าส่องสว่าง ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่สูงและเร่งระบายน้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง
สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.-สำนักข่าวไทย