กรุงเทพฯ 23 พ.ย. – ปตท.ขยายธุรกิจรองรับสังคมผู้สูงอายุตั้งบริษัทอินโนบิกฯ ทำธุรกิจผลิตยาชีววัตถุรักษาโรคไม่ติดต่อ อาหารเพื่อสุขภาพและผลิตวัสดุทางการแพทย์
นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย บมจ.ปตท. บรรยายพิเศษ “Life Science ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย เพื่อเศรษฐกิจและสังคมไทย” ว่า จากแนวโน้มสังคมไทยก้าวสู่สังคมสูงวัย ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า ปัจจุบันคนทำงาน 1 คน ดูแลคนสูงอายุ 1.8 คน และในอีก 20 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็นดูแลคนสูงอายุ 3.6 คน ทางคณะกรรมการ ปตท.จึงตัดสินใจขยายฐานธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจ “Life Science” ซึ่งเป็น 1 ใน 12 New S-curve ที่รัฐบาลส่งเสริม ด้วยการจัดตั้งบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ ผลิตยา อาหารเพื่อสุขภาพและผลิตวัสดุทางการแพทย์ สำหรับยาสามัญที่จะผลิตยาชีววัตถุที่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต เพื่อใช้ในการรักษาโรคไม่ติดต่อ ได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร โรคการผิดปกติของระบบประสาทเป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุขของประเทศและช่วยลดการพึ่งพายาจากนำเข้าจากต่างประเทศ และเพื่อรองรับการเป็นเมดดิคัลฮับตามนโยบายของรัฐบาล
ด้านการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนายาและสร้างอีโคซีสเต็มจะร่วมมือกับพันธมิตรทำการวิจัยและพัฒนา เน้นการเติบโตร่วมกับกับพันธมิตรผ่านร่วมทุน โดยบริษัทจะมีความสามารถนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทเข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว หากเข้าสู่ตลาดได้เบื้องต้นคาดว่า ขนาดของตลาดที่บริษัททำได้จะมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี คาดว่าปี 2565 น่าจะมีผลิตภัณฑ์ของอินโนบิกเข้าสู่ตลาดได้
“ปี 63 เป็นปีเริ่มต้นของธุรกิจก่อนที่จะเติบโตอย่างที่ ปตท.เข้าสู่ธุรกิจปิโตรเคมีเมื่อปี 2527 และเติบโตติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอย่างในปัจจุบัน” นายบุรณิน กล่าว
สำหรับบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรกไม่เกิน 300 ล้านบาท และต่อมาอนุมัติให้เพิ่มทุนเป็นประมาณ 2,000 ล้านบาทถือหุ้นโดยบริษัท ปตท.โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด (PTTGM) ทั้งหมด และขนาดของธุรกิจจะมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 ของธุรกิจรวมของ ปตท. ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการจัดตั้งคาดว่าเดือนธันวาคม 2563 หรือต้นปี 2564 จะได้คณะกรรมการ และมีการกำหนดนโยบายการดำเนินธุรกิจและสินค้าที่จะผลิตต่อไป โดยจะเน้นที่พิจารณาแล้วว่า ผลิตแล้วสามารถแข่งขันได้โดยจะจำหน่ายทั้งในประเทศเพื่อทดแทนสินค้านำเข้าที่ราคาสูงมาก และบุกตลาดประเทศด้วยโดยเฉพาะภูมิภาคเอเชีย.-สำนักข่าวไทย