นครราชสีมา 28 ต.ค. – คดีกรรโชกทรัพย์เด็กหญิงวัย 15 ปี โดยล่อซื้อกระทงลิขสิทธิ์ ที่ จ.นครราชสีมา วันนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 2 คน โดยไม่รอลงอาญา ขณะที่จำเลยทั้งสองยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
ความคืบหน้ากรณีเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) วัย 15 ปี หารายได้เสริมรับทำกระทง กระทั่งมีคนโทรมาสั่งกระทงลายการ์ตูน ยอดรวม 510 บาท โดยมีการวางเงินมัดจำ 200 บาท พร้อมนัดรับของในตัวเมืองโคราช ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดรับของ ได้มีการจับกุมเด็กหญิงวัย 15 ปี เนื่องจากกระทงมีลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ โดยได้เสนอเรียกรับเงิน 50,000 บาท แลกกับการปล่อยตัวและไม่ต้องติดคุก สุดท้ายผู้ปกครองเจรจายอมจ่ายเงินให้ 5,000 บาท ซึ่งต่อมาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายประจักษ์ โพธิผล, นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร และ น.ส.วนิสา ภรรยาของนายนัน 3 ผู้ต้องหาขบวนการรีดทรัพย์เหยื่อล่อซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ในฐานความผิดกรรโชกทรัพย์ ใช้เอกสารปลอม แจ้งความเท็จ และกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีผู้เสียหายอีกกว่า 50 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ โดยมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันกับเด็กหญิงวัย 15 ปี พร้อมมีการเรียกรับเงิน 20,000-50,000 บาท และบางรายถูกเรียกสูงถึง 100,000 บาท จนเป็นคดีโด่งดัง เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2562
ล่าสุดวันนี้ (28 ต.ค.) นายพรเทพ เจริญพงศ์อนันต์ ประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีนี้ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าไปเป็นทนายร่วม เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย คือ เด็กหญิงเอ (นามสมมติ) เป็นคดีแรก และมีการสืบพยานกันมา จนศาลได้สั่งฟ้องจำเลยทั้ง 3 คน ซึ่งเช้าวันนี้ ศาลจังหวัดนคราชสีมาได้มีคำพิพากษาลงโทษจำเลยใน 3 ข้อหา คือ ใช้เอกสารปลอมในเรื่องของหนังสือมอบอำนาจ แจ้งความเท็จ และกรรโชกทรัพย์ โดยสั่งให้จำคุกจำเลยที่ 1 คือ นายประจักษ์ โพธิผล 2 ปี 6 เดือน และจำเลยที่ 2 นายภูมิภากร ถินสุวรรณ์ หรือ นัน กิ่งเพชร จำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 3 คือ น.ส.วนิสา ภรรยาของนายนัน ศาลได้ยกฟ้อง เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าว
ในส่วนของผู้เสียหายรายอื่นๆ นายณพจน์ ผลเจริญ ฝ่ายช่วยเหลือทนายอาสาประจำสถานีตำรวจ/ส่วนราชการ เปิดเผยว่า ได้ติดตามความคืบหน้าคดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนทุกรายแล้ว ขณะนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่า อยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม และรอดูผลคำพิพากษาในคดีนี้ก่อน สำหรับเป็นแนวทางประกอบสำนวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุลักษณะคล้ายกัน จะมีแตกต่างกันเรื่องสินค้าที่ทำขึ้นจำหน่าย
หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ทางจำเลยที่ 1 และ 2 ได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งเบื้องต้นศาลชั้นต้นได้ให้ประกันตัวจำเลยทั้ง 3 คน ด้วยหลักทรัพย์คนละ 80,000 บาท ส่วนชั้นอุทธรณ์ยังไม่รู้ว่าจะมีดุลพินิจเรียกประกันตัวด้วยหลักทรัพย์จำนวนเท่าไร และเมื่อมีการยื่นอุทธรณ์ ทางสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ก็จะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการยื่นคำแก้อุทธรณ์ ช่วยเด็กหญิงเอ ต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ตามลำดับต่อไป. – สำนักข่าวไทย