ทำเนียบฯ 20 ต.ค. – “อนุชา” ระบุพรรคการเมืองเห็นพ้องเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ รับฟังความเห็นร่วมหาทางออก ย้ำการแสดงออกทำได้ แต่ต้องไม่ก้าวล่วงสถาบัน ชี้ประชาธิปไตยต้องไม่บีบบังคับ
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมกับประธานสภาผู้แทนราษฎรและพรรคการเมือง วานนี้ (19 ต.ค.) ว่า ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรที่จะมีการเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ เพื่อใช้เวทีสภาฯ ในการพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา เปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามมาตรา 165 ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (20 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะขอความเห็นชอบจาก ครม. เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุว่าจะเปิดประชุมในช่วงวันใด เนื่องจากมีขั้นตอนในการออกพระราชกฤษฎีกา แต่ส่วนตัวคาดว่า 1-2 วัน น่าจะเพียงพอว่าจะไปในทิศทางไหน
ส่วนประเด็นที่รัฐบาลอยากใช้เวทีสภาฯ ในการช่วยคลี่คลายปัญหาใดเป็นหลักหรือไม่นั้น นายอนุชา กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวจะต้องพูดคุยกัน เพราะทุกปัญหาจะนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา แต่หากผู้ชุมนุมไม่รอการพิจารณาของรัฐสภา และมีการเรียกร้องให้รัฐบาลต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ภายใน 24 ชั่วโมงนั้น ตนเห็นว่าเป็นความเห็นที่แตกต่าง ซึ่งจะต้องนำมาสู่การพิจารณา โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ส่วนประเด็นอื่นจะเป็นข้อคิดเห็นและเสนอแนะ รวมทั้งเสียงสะท้อนปัญหาต่าง ๆ
“การเรียกร้องในสังคมประชาธิปไตยนั้น การเรียกร้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่หากเป็นการบังคับ หรือขู่เข็ญ ผมว่าไม่น่าใช่เรื่องที่ถูกต้อง” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ในบางเรื่อง จุดยืนของแต่ละพรรคมีอยู่แล้ว ทั้งการไม่นำสถาบันมาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการไม่แก้ไขในหมวด 1 และหมวด 2 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งมองว่าจุดยืนของแต่ละฝ่ายมีอยู่แล้ว จึงฝากไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมว่า สิ่งที่รัฐบาลพยายามดำเนินการนั้นเพื่อประเทศชาติ ซึ่งเรื่องทั้งหมดต้องพูดคุยและหาทางออกร่วมกัน โดยความเห็นต่างไม่ได้ผิด และอยากให้ใช้เวทีสภาฯ หาทางออก แต่หากใช้เวทีสภาฯ แล้ว ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ ก็ต้องค่อย ๆ ว่ากัน และหาวิธีที่จะมีบทสรุปที่ดีด้วยสันติวิธีตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันคิด เพื่อให้ปัญหาจบลงด้วยการพูดคุย
“ถ้าเราคิดว่าการเรียกร้องเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ถ้าอีกฝ่ายเรียกร้อง ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องร่วมกัน นี่คือประชาธิปไตยที่ความเห็นหลากหลายได้ จะไปบังคับให้ทำไม่ได้ จึงอยากฝากกระบวนความคิดนี้ไปถึงนักศึกษาด้วย” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย