จับตาดีเบตรอง ปธน.สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

ยูทาห์ 7 ต.ค.- การโต้วาทีหรือดีเบตคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขึ้นในค่ำวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าพรุ่งนี้ตามเวลาในไทย และถูกจับตาว่าเป็นดีเบตรองประธานาธิบดีที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ


ดีเบตระหว่างรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จากพรรครีพับลิกัน และ ส.ว.คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตจะมีขึ้นในเวลา 19.00-20.30 น.วันที่ 7 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ตรงกับเวลา 08.00-09.30 น.วันที่ 8 ตุลาคม ตามเวลาในไทย โดยมีซูซาน เพจ หัวหน้าสำนักงานวอชิงตันของหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ที่ผ่านมาดีเบตของคู่ชิงรองประธานาธิบดีแทบไม่เคยได้รับความสนใจ แต่ปีนี้จะมีความสำคัญที่สุดนับตั้งแต่เริ่มจัดมาเมื่อ 40 ปีก่อน เพราะคู่ชิงประธานาธิบดีของทั้งสองพรรค คือ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 74 ปี และนายโจ ไบเดน ที่จะมีอายุครบ 78 ปี ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ล้วนอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ

ประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่งออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอเตอร์รีดเมื่อวันจันทร์ ตามเวลาสหรัฐ หลังนอนรักษาตัวอยู่สามคืน เพราะตรวจพบเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขณะที่อดีตรองประธานาธิบดีไบเดนมีปัญหาสุขภาพมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 ดังนั้น ผู้ชนะเป็นรองประธานาธิบดีจึงมีโอกาสทำหน้าที่ประธานาธิบดี เพราะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 25 ที่ได้รับสัตยาบันในปี 2510 เรื่องการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีระบุไว้ว่า หากประธานาธิบดีถูกถอดถอนจากตำแหน่ง เสียชีวิตหรือลาออก ให้รองประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งแทน


ดีเบตระหว่างเพนซ์วัย 61 ปี และแฮร์ริสที่จะมีอายุครบ 56 ปี ในวันที่ 20 ตุลาคม จะมีขึ้นในที่หอประชุมที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ เมืองซอลต์เลคซิตี รัฐยูทาห์ ทางตะวันตกของสหรัฐ โดยมีคนเข้าร่วมฟังน้อยมาก ทั้งคู่จะต้องรักษาระยะห่างทางสังคมมากกว่าปกติ ห้ามจับมือทั้งก่อนและหลังดีเบต ห้ามถ่ายรูปร่วมกัน สถาบันบรุกกิงส์คาดว่า ผู้ดำเนินรายการจะยิงคำถามเน้นเรื่องการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดี สุขภาพ และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งที่ 25 มากกว่าปกติ รองประธานาธิบดีเพนซ์ต้องแสดงความพร้อมที่จะเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง โดยไม่สร้างความระแวงให้แก่ประธานาธิบดีทรัมป์ที่เกรงจะถูกหักหลัง ขณะที่ ส.ว.แฮร์ริส ต้องฉีกจากบทบาทอัยการมาเป็นผู้ที่พร้อมเป็นประธานาธิบดี เพราะขณะนี้สหรัฐต้องการผู้นำที่แน่วแน่ แข็งแกร่ง เข้าอกเข้าใจ และพร้อมบริหารอย่างเป็นอิสระ.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง