ประจวบคีรีขันธ์ 2 ต.ค.-ตำรวจวิสามัญ “โอ นายาง” มือปืนพระกาฬ ผู้ต้องหาคดียิงน้องสาวเสี่ยรับเหมารายใหญ่ใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หนีมากบดานในห้องเช่า อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ นานนับเดือน ขณะเข้าจับกุมเกิดการยิงต่อสู้ ก่อนถูกวิสามัญ
ค่ำวานนี้ (1 ต.ค) เมื่อเวลา 20.00 น. พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , พันตำรวจเอกพนิช อ่วมสอาด รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.ชนินทร์ เดชชีวะ ผกก.สภ.บ้านหนองพลับ แพทย์ รพ.หัวหิน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ นายฉัตรไชย หรือโอ สุริโย อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี หลังถูกวิสามัญที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 5 บ้านเฉลิมพร ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน สภาพศพสวมเสื้อและกางเกงชุดกีฬาสีแดง เสียชีวิตในป่าหญ้าห่างจากห้องเช่าประมาณ 200 เมตร ร่างกายถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 9 นัด ที่ต้นขวาขวาพบปืนพกขนาด .38 มีปลอกกระสุนคารังเพลิงอยู่ ใกล้กับร่างผู้เสียชีวิต พบย่ามไหมพรมถักสีแดง ซึ่งคาดว่าเป็นย่ามที่เอาไว้ใส่อาวุธปืน ตกขณะยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ว่าได้ติดตามจับกุม นายฉัตรไชย ที่ก่อเหตุยิงนางพีร์พิชชา มากมูล อายุ 47 ปี น้องสาวผู้รับเหมารายใหญ่ในอำเภอชะอำ จ.เพชรบุรี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งหลบหนีมาอยู่ในพื้นที่ป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ทางตำรวจจึงเฝ้าติดตามจนกระทั่งสืบทราบว่านายฉัตรไชย เช่าบ้านอยู่ที่ห่างจุดที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เป็นห้องเช่าชั้นเดียวและใช้รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าสีดำหมายเลขทะเบียน งคท. เชียงใหม่ 609 โดยช่วงเย็นวานนี้ (2 ต.ค.) นายฉัตรไชย ออกมาซื้ออาหาร ระหว่างนั้นตำรวจได้ติดตามเข้าไปจนถึงหน้าบ้านและแสดงตัวเข้าจับกุม เมื่อนายฉัตรไชย เห็นตำรวจจึงวิ่งหนีออกไปในป่าด้านหลังห้องเช่า และใช้อาวุธปืนขนาด.38 ที่พกติดตัว ยิงใส่ตำรวจ จนถูกวิสามัญ เบื้องต้นได้ส่งศพชันสูตรโรงพยาบาลหัวหิน ก่อนส่งให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
สอบถามเพื่อนบ้านที่เช่าห้องอยู่ฝั่งตรงข้าม นายฉัตรไชย หรือโอ สุริโย ทราบว่า นายโอ ได้เข้ามาเช่าห้องประมาณเดือนกว่าๆ อาศัยอยู่คนเดียว ช่วงแรกๆ มีคนขับรถยนต์กระบะมาหาบ้าง ไม่สุงสิงกับใคร จะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง ปิดประตูห้องเช่าตลอดเวลา จะออกมาเฉพาะช่วงบ่าย เพื่อขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้ออาหาร ไม่เคยพูดจาทักทายกัน.-สำนักข่าวไทย