เมืองทองธานี 21 ก.ย.- นายกฯ รณรงค์เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังโควิดระลอก 2 ขอบคุณ อสม.ร่วมทำประโยชน์เพื่อสังคม ชี้แม้จะยับยั้งการแพร่ระบาดได้ดีแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง ไม่ประมาท ฝากหนุนสร้างสามัคคี รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานรณรงค์เตรียมความพร้อม อสม.เฝ้าระวังโควิดระลอกที่ 2 ว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกและในประเทศไทย ถือว่าไทยได้ร่วมมือกันทำงานจนสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดได้ดีระดับหนึ่ง ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานต่อไปในอนาคต
“วันนี้รู้สึกสบายใจที่มีคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคืออาสาสมัครสาธารณสุข หรือ อสม. ร่วมกันทำประโยชน์เพื่อสังคม โดยในหลาย ๆ ประเทศไม่มี อสม. แต่ไทยมี อสม.ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นด่านหน้าที่ทำงานกับท้องที่และท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอบคุณ อสม. แพทย์ พยาบาลและหน่วยงานสาธารณสุขทั้งหมดที่ช่วยสนับสนุน ดูแล ป้องกันและเสียสละ ทำงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ไทยจะสามารถระงับยับยั้งการแพร่ระบาดได้ดีระดับหนึ่ง แต่ยังคงต้องระมัดระวังและเข้มงวดการป้องกันเหมือนเดิม ดังนั้น ขอให้ทุกคนมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป รัฐบาลทราบดีว่าทุกคนไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์อย่างอื่น รัฐบาลจึงจ่ายค่าตอบแทน ชดเชย เยียวยาและเสี่ยงภัยที่มอบให้กับอสม. เป็นเวลา 7 เดือน ถือเป็นการตอบแทนน้ำใจ ซึ่งได้โอนเข้าบัญชีอสม.แล้วเมื่อเวลา 03.00 น.(21 ก.ย.) ที่ผ่านมา หวังว่าจะนำเงินไปใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศต่อไป และฝากภารกิจให้ อสม.ช่วยสนับสนุนเรื่องความสามัคคี รักษาชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อให้สังคมเกิดความสงบเรียบร้อยให้มากที่สุด
“วันนี้ได้รับเกียรติให้ใส่เสื้อสีขาวของผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข จนถูกเรียกว่า “หมอตู่” แต่ส่วนตัวผมมองว่า เรียกว่าหมอคงไม่เหมาะสม เพราะผมไม่ได้เป็นหมอ แต่ให้เรียกว่าเป็น “ช่างซ่อม” น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ทำงานหลายอย่างดูแลหลายกระทรวง” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย