สำนักงานสลากฯ 11 ก.ย. – สำนักงานสลากฯ เปิดเวทีระดมความเห็นจากหลายฝ่าย หวังแก้ปัญหาสลากเกินราคา มุ่งดูแลผู้ซื้อและผู้ขาย บรรดาผู้ค้ายังต้องการจัดพิมพ์สลากเพิ่มจาก 100 ล้านฉบับ รองรับความต้องการ หนุนสลากออนไลน์ เพิ่มทางเลือกให้กับนักเสี่ยงโชค
นายพชร อนันตศิลป์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยนายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมเสวนากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เรื่อง “การปรับโครงสร้างกระจายสลาก รวมถึงการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา” เพื่อต้องการระดมความเห็นอย่างหลากหลายจากทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้เสีย ทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชน มูลนิธิ สมาคมคนพิการหลายองค์กร รวมทั้งผู้ค้าสลากรายย่อย ผู้ซื้อสลาก หวังนำไปสู่การปัญหาสลากเกินราคา และดูแลผู้ค้าได้รับสลากอย่างทั่วถึง ดูแลผู้ซื้อสลากไม่เกินราคา 80 บาท
หลังพบว่าโควิด-19 ทำให้ประชาชนตกงานหันมาเป็นผู้ค้ารายย่อยหน้าใหม่ จึงมีแรงซื้อสลากเพิ่มเติม เพราะเป็นอาชีพเข้ามาง่าย ส่งผลให้มีแรงซื้อในตลาดค้าส่งเพิ่มขึ้น และเมื่อรวมชุดราคาพุ่งใบละ 150 บาท สำนักงานสลากฯ จึงต้องการจัดระเบียบโควตาใหม่ หรือการศึกษาแนวทางการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติม เพื่อจำหน่ายสลากออนไลน์ราคา 80 บาท ซึ่งทั้ง 2 แนวทาง ต้องการเปิดให้มีการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากทุกฝ่าย
ปัจจุบันจัดพิมพ์สลากฯ เกิน 100 ล้านฉบับต่องวด แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ สลากโควตา 33 ล้านฉบับ แจกจ่ายให้กับองค์ต่าง ๆ ทั้งผู้พิการ ผู้มีรายได้น้อย ให้มีอาชีพในการจำหน่ายสลากฯ และ 67 ล้านฉบับ เปิดให้มีการซื้อจอง โดยมีผู้ลงทะเบียนซื้อจอง 150,000 ราย สำหรับการรับสลากทั้งระบบไปจำหน่ายรวม 190,000 ราย ในปี 2563 ยอด 11 เดือน ยังเป็นรัฐวิสหากิจนำส่งเงินเข้าคลังสูงสุดอันดับ 1 เป็นเงิน 42,000 ล้านบาท
ขณะที่สมาคมคนพิการ ผู้ค้ารายย่อย เรียกร้องให้จำหน่ายสลากโควตาส่งให้กับองค์กร มูลนิธิ สมาคมต่าง ๆ ราคา 70.40 บาท เพื่อช่วยเหลือกลุ่มคนพิการที่ได้รับโควตา สำหรับการจัดสรรสลากให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งได้ลงทะเบียนกับสำนักงานสลากฯ สั่งจองทางตู้เอทีเอ็มและจัดส่งไปไปรษณีย์ อาจต้องเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติม เพราะเปิดลงทะเบียนมาแล้วหลายปี การป้องกันสลากเกินราคาจึงต้องหาทางกำหนดให้มีผู้จำหน่ายจริงเป็นอาชีพขายทั้งระบบโควตาและผู้สั่งจอง
โดยขณะนี้เปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นผ่านเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ ภายใน 15 กันยายนนี้ แบบสอบถามครั้งนี้ มี 10 ข้อ ได้แก่ 1.ปัจจุบันสำนักงานฯ พิมพ์สลากงวดละ 100 ล้านฉบับ คิดว่าเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ 2.อยากให้มีการปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระบบการจำหน่ายสลากปัจจุบันหรือไม่ 3.ต้องการให้สำนักงานสลากฯ กำหนดคุณสมบัติของผู้จำหน่ายสลากเป็นอย่างไร 4.อยากให้สำนักงานสลากฯ ใช้วิธีคัดเลือกผู้จำหน่ายสลากอย่างไร เวทีสัมมนาวันนี้เสนอแนะความเห็นอย่างหลากหลาย
ขณะที่ ร.อ.นิย์ชาญ สุปินะ ประธานกลุ่มสหภาพฯ และเครือข่ายองค์กรคนพิการ ให้ความเห็นว่าราคาสลากขึ้นอยู่กับความต้องการของสลาก หากคนต้องการซื้อมาก ราคาจะสูงขึ้น การห้ามรวมชุด ห้ามขายส่ง จะควบคุมไม่ได้ แม้จะเปลี่ยนคน ตัดสิทธิ์ แต่พฤติกรรมไม่ต่างจากเดิม เพียงแต่เปลี่ยนคน ปัญหาจึงวนกลับมาที่เดิม จึงเสนอแนวทางเพิ่มจัดพิมพ์สลากเพิ่มให้เพียงพอเพิ่มอีก 4 ล้านฉบับ จัดสรรโดยตรงให้กับผู้รับโควต้าให้เพียงพอ รูปแบบสลากขอจัดพิมพ์ใบคู่แบ่งราคาคู่ละ 160 บาท หรือแบ่งขายใบละ 80 บาท เพื่อจัดพิมพ์จำนวน 50 ล้านฉบับแทน หรือเปลี่ยนเลขจาก 6 หลัก เพิ่มเป็น 8 หลัก และเสนอให้สำนักงานสลากจัดชุด ด้วยการเลิกการออกรางวัล 3 ตัวหน้า หมุน 2 ครั้ง แล้วกลับมาใช้แบบเดิม คือ การออกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 4 ครั้ง
นายประสาน น้อมจันทึก หัวหน้ากลุ่มผู้ค้าสลาก 5 ภาค กล่าวว่า ผู้ค้าสลากปัจจุบันเดือดร้อนมาก จึงเสนอให้ซื้อสลากวันที่ 18 ของทุกเดือน จากนั้นรับสลากไปจำหน่ายวันที่ 20 ของทุกเดือน ยอมรับว่าต้นทุนสลากราคา 70.40 บาทต่อใบ หากได้ 5 เล่ม ต้นทุน 35,200 บาทต่องวด หากขายหมด เมื่อหักค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้านเมื่อไปขายต่างจังหวัดได้กำไรเพียง 4,000 บาทต่องวด จึงเสนอให้จัดโต๊ะจำหน่ายของสมาคม องค์กร มูลนิธิ ราคา 80 บาท ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด เพื่อตรวจสอบได้ชัดเจน และขอให้ยกเลิกการรวมชุดของสำนักงานสลาก 2-2-1 ยกเลิกคนลงทะเบียน ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ได้สิทธิ์แล้วนำไปขายต่อโดยไม่ได้เป็นผู้ค้าตัวจริง
นายคำดี สารวิทย์ กล่าวว่า ขอให้ดูแลมูลนิธิคนพิการ องค์กรต่าง ๆ เมื่อนำระบบออนไลน์มาใช้ เพื่อแยกการค้าสลากใบรวมกับการค้าสลากผ่านออนไลน์ เพื่อมีทั้ง 2 ระบบในการจำหน่ายสลาก เพราะว่าคนพิการ เข้าถึงแอปพลิเคชั่น ระบบออนไลน์ได้ไม่เท่ากับคนปกติธรรมดา
นายวิษณุ วงศ์สินศิริกุล กรรมการการแข่งขันทางการค้า กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ ได้จัดพิมพ์สลากเพิ่มตั้งแต่ 34 ล้านฉบับ เป็น 100 ล้านฉบับในปัจจุบัน แต่ผู้เสี่ยงโชคจริง ๆ ยังเลือกซื้อเฉพาะเลขท้าย 2-3 ตัว จึงเสนอให้เพิ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มตัวเลือกรองรับนักเสี่ยงโชค ทั้งหวยออนไลน์ และสลากรูปแบบอื่น เหมือนกับต่างประเทศ โดยดูแลทั้งใบแบบเดิมและสลากแบบใหม่ .-สำนักข่าวไทย