กลุ่ม ปตท.พร้อมจ้างงานเพิ่ม-ปรับแผน 3 กลุ่มลงทุนเพื่อความยั่งยืน

กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – กลุ่ม ปตท.พร้อมจ้างงานเพิ่ม-ปรับแผน 3 กลุ่มลงทุนเพื่อความยั่งยืน โดยศึกษาปรับโครงสร้างองค์กรรับการรุกธุรกิจพลังงานทดแทนปลายปีนี้ รับผลกระทบจากโควิด-19 กระทบรายได้ปีนี้ลดลงถึง 2 หลัก ชี้ราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้เฉลี่ย 40-45 ดอลลาร์/บาร์เรล


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ได้ขอให้ บมจ.ปตท.ร่วมเป็นหน่วยงานในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับกระทบจากโควิด-19 ซึ่ง ปตท.ได้ดำเนินการหลากหลายเรื่องและจะเน้นเรื่องการจ้างงานเพิ่มขึ้น ทั้งการจ้างงานตรง โดยบริษัทในกลุ่ม ปตท. และการจ้างงานในรูปแบบเชิงช่วยเหลือสังคมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งกลุ่มกำลังพิจารณาโครงการเพิ่มเติม ขณะเดียวกันได้ดำเนินการรูปแบบการช่วยด้านการตลาดของสินค้าชุมชนทั้งขายผ่านปั๊มน้ำมัน การขายรูปแบบตลาดออนไลน์  เช่น Facebook  Line  Website www.ชุมชนยิ้มได้.com เป็นต้น  เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดแก่ชุมชน การกระตุ้นเศรษฐกิจ…ท่องเที่ยว ส่วนการลงทุนปีนี้ได้ให้นโยบายในกลุ่มเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ทั้งหมด 

“โควิด-19 ส่งผลกับระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ตัวเลขจีดีพีของไทยหลายฝ่ายประเมินว่าอาจลดลงตั้งแต่ร้อยละ 5-8.8 ซึ่งกลุ่ม ปตท.ได้รับผลกระทบทั้งในแง่ยอดขายและราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง ดังนั้น จึงคาดว่ารายได้ปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้ว ไม่ต่ำกว่า 2 หลัก จากที่ปีที่แล้วมียอดขายประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 40-45 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากปีที่แล้วราคาเฉลี่ย 63.5 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าครึ่งปีหลังยอดขายน่าจะดีกว่าครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากคลายล็อกดาวน์” นายอรรถพล กล่าว


นายอรรถพล กล่าว ปตท.ได้วางแผนการดำเนินงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยจัดตั้งศูนย์ PTT Group Vital Center เพื่อรักษาเสถียรภาพมั่นคงทางพลังงาน ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีของไทย นำคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจกลับเข้าสู่การดำเนินงานในสภาวะปกติให้ได้โดยเร็วที่สุด  และยังคงนโยบายทางการเงินอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง  ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2563 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 12,053 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 13,607 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2563  ขณะที่กำไรสุทธิในครึ่งแรกของปี 2563 วงเงิน 10,499 ล้านบาท ลดลง 44,751  ล้านบาท จากในครึ่งแรกของปี 2562 

สำหรับการประชุมปรับกลยุทธ์การดำเนินการของกลุ่ม ปตท.ที่ปรับทุกกลางปีนั้น ปี 2563 ได้เน้น 3 กลุ่ม หลักและจะนำไปสู่การปรับงบลงทุนทุก 5 ปี ในช่วงปลายปี  เน้นการสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ปรับพอร์ตการลงทุนไปสู่ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโต สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้พลังงานระยะยาว  ซึ่งหลายส่วนอาจต้องปรับโครงสร้างธุรกิจรองรับ โดยจะเห็นภาพชัดเจนในปลายปีนี้เช่นกัน สำหรับกลยุทธ์ 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย

1.ธุรกิจขั้นต้น ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ไปสู่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ครบวงจร (LNG Portfolio Player ) ขยายการทำตลาดแอลเอ็นจีในต่างประเทศ แสวงหาโอกาสการลงทุน Value chain ของ Gas และ LNG  ซึ่งที่ผ่านมา ปตท.ได้ดำเนินการมาบ้างแล้ว ในการแสวงหาพันธมิตร เช่น ลงนามกับ บมจ.บ้านปู ศึกษาทิศทางการลงทุนธุรกิจก๊าซในประเทศร่วมกัน การเตรียมพร้อมในการส่งออกแอลเอ็นจี ตามนโยบาย LNG HUB โดยได้ทดสอบส่งไปจีนด้วยวิธีการ “ISO -Container ” การลงนามสัญญาขายแอลเอ็นจีในประเทศเพื่อใช้กับโรงงานต่าง ๆ   การนำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจร ซึ่งปีนี้นำเข้ามาแล้ว 7 ลำราคาต่ำเฉลี่ยเพียง 2.5 ดอลลาร์/บาร์เรล  โดยราคาที่นำเข้ามาต่ำสุดคือ 1.78 เหรียญ/บาร์เรล นับเป็นเรื่องที่ดีต่อประเทศทำให้ต้นทุนก๊าซต่ำสุด ขณะเดียวกันได้เน้นเรื่องการขายแอลเอ็นจีในต่างประเทศปีนี้มีสัญญาซื้อขายระยะยาว 12 ลำ ( 720,000 ตัน) ส่งมอบแล้ว 4 ลำ (260,000 ตัน)  ซึ่งในส่วนนี้เป็นไปตามเป้าหมายจะขยายธุรกิจเทรดดิ้งปิโตรเลียม ในต่างประเทศ (out-out  ) ให้มีสัดส่วน ร้อยละ 50 ใน 3 ปีข้างหน้า จากที่ปัจจุบันมีสัดส่วนร้อยละ 45-47 จากปริมาณเทรดดิ้งรวม 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน และมีอัตราการขยายตัวราวร้อยละ 5-10 ต่อปี 


2. ธุรกิจขั้นปลาย เน้นการสร้างมูลค่าทางธุรกิจร่วมกัน (Synergy ) เพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุน โดยต้องยอมรับว่าปีนี้เป็นช่วงวัฏจักรขาลงของทั้งปิโตรเคมีและโรงกลั่น ดังนั้น จึงต้องร่วมมือเพิ่มมากขึ้นในการลดต้นทุนร่วมให้มากขึ้น

3. ธุรกิจใหม่และพลังงานทดแทน ให้มีสัดส่วนร้อยละ 20 ของพอร์ตลงทุนในอนาคต โดยจะเร่งพัฒนาและขยายธุรกิจ  LIFE SCIENCE อาหารเสริม โลจิสติกส์  ต่อยอดจากธุรกิจ COMMODITY  ไปสู่ Advance material  การต่อยอดจากธุรกิจน้ำมันไปสู่ธุรกิจไลฟ์ไสตล์ต่าง ๆ  ซึ่งในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทน กลุ่ม ปตท.ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปี 2573 จะมีกำลังผลิตรวม 8,000 เมกะวัตต์ โดยทั้งกลุ่มจะปรับโครงสร้างธุรกิจรองรับ ซึ่งจะมีศึกษาการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน อินเดีย เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วน “เหนือ กลาง ตะวันออก” มีฝนตกบางแห่ง อัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”