วอชิงตัน 27 พ.ย. – ชาวอเมริกันพากันออกมาจับจ่ายใช้สอยในช่วงมหกรรมการชอปปิงแห่งปี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แบล็คฟรายเดย์” มากขึ้นในปีนี้ แต่มูลค่าการใช้จ่ายต่อหัวกลับลดลงจากการแข่งขันลดราคาระหว่างร้านค้า
สมาพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นอาร์เอฟ) ระบุว่า ในปีนี้ มีจำนวนผู้ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าในมหกรรมแบล็คฟรายเดย์ตลอดระยะเวลา 4 วันที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันพฤหัสบดีในวันขอบคุณพระเจ้ามากกว่า 154 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 151 คนเมื่อปีที่แล้ว มูลค่าการใช้จ่ายต่อหัวโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 289.19 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,276 บาท) ลดลงจาก 299.6 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,645 บาท) ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยร้อยละ 44 ของผู้ที่ร่วมตอบแบบสอบถามกับเอ็นอาร์เอฟระบุว่าพวกเขาซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต ขณะที่ร้อยละ 40 เลือกซื้อตามร้านค้า นายแมทธิว เชย์ ประธานเอ็นอาร์เอฟกล่าวว่า เป็นสัปดาห์ที่คึกคักสำหรับบรรดาผู้ค้าปลีก แต่เป็นสัปดาห์ที่ดียิ่งกว่าสำหรับผู้บริโภคที่สามารถซื้อสินค้าได้ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ
เอ็นอาร์เอฟเผยว่า ในช่วง 4 วันของงานมหกรรม นักชอปปิงออนไลน์ส่วนใหญ่ร้อยละ 74 เลือกที่จะซื้อสินค้าในวันศุกร์ซึ่งตรงกับวันแบล็คฟรายเดย์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากปีที่แล้ว ขณะที่ผู้ที่เดินทางออกไปซื้อสินค้าตามร้านค้าร้อยละ 75 เลือกที่จะใช้จ่ายในวันศุกร์เช่นกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 ชาวอเมริกันวัย 18-34 ปีเป็นกลุ่มหลักที่ช่วยกระตุ้นการชอปปิง โดยพบว่า 8 ใน 10 คนจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย