โรงแรมรามาการ์เด้นส์ 15 ส.ค.-หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตุตร.จับเพนกวินคนเดียว ทั้งมีหลายคนร่วมเคลื่อนไหว หวั่นบานปลาย รัฐบาลต้องระวัง อย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู แนะนายกฯร่วมเวทีฟังความเห็นนักศึกษา
นายสมพงษ์ อรมวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน วานนี้ (14ส.ค.) ว่า การตั้งข้อหายังไม่ชัดเจน แต่เป็นเรื่องการตอบโต้ เพราะเห็นว่าเพนกวิน เป็นหนึ่งในแกนนำหลักที่เคลื่อนไหว ทั้งที่มีหลายคนออกมาร่วมเคลื่อนไหว แต่เหตุใดจึงเลือกจับแต่แพนกวิน ดังนั้น ต้องไปดูข้อกฏหมายมาตร 116 ครอบคลุมความผิดอย่างไรบ้าง
ส่วนการจับตัวแกนนำถือเป็นประเด็นอ่อนไหวต้องระมัดระวังหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า พูดไม่ได้ เพราะรัฐมีความรอบรู้มากว่า เชื่อว่าเป็นการดำเนินการตามกฏหมาย แต่ขณะนี้ความรู้สึกประชาชนสำคัญกว่า อาจมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ซึ่งตนเป็นห่วงเรื่องเหล่านี้
เมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์จะบานปลายหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า คงบอกไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมีลักษณะคล้ายแบบนี้ จุดจบจะอยู่ตรงไหน เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา เพราะไม่อยากให้เกิดขึ้น อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดำเนินการตามที่รับปากไว้ คือจะรับฟังกลุ่มนักศึกษา แต่การพูดกับการกระทำ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น เพราะตำรวจยังเดินหน้าใช้กฏหมายกับกลุ่มที่เคลื่อนไหว ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลหรือไม่ เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง อย่ามองผู้เห็นต่างเป็นศัตรู เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาบานปลายในอนาคต และหากถึงจุดนั้นจะเกิดความวุ่นวาย
ส่วนกรณีส.ส.พรรคเพื่อไทยไปที่สน.สำราญราษฏร์ นายสมพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดำเนินการภายใต้กรรมการธิการการปกครองช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน และหากต้องประกันตัว พร้อมใช้ตำแหน่งส.ส.ทำหน้าที่ประกันตัว ซึ่งการเข้าไปช่วยเหลือแบบนี้ จะป็นการเข้าไปสนับสนุนผู้ชุมนุมหรือไม่ มองว่า คงไม่ใช่ เพราะเราเห็นว่ากระบวนการไม่ถูกต้อง และการประกันตัวออกมาครั้งนี้ เพื่อให้ได้รับอิสรภาพและต่อสู้ เพื่อแก้ต่างข้อกล่าวหา
นายสมพงษ์ กล่าวถึงทางออกของประเทศ ในขณะนี้ ว่าคงเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร และเป็นหน้าที่รัฐบาล เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านไม่มีเสียงมากพอ ขณะนี้ยังเร็วไป ซึ่งยังไม่ทราบว่าส.ส.ได้ยื่นญัตติเกี่ยวกับกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรหรือไม่
ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้(16 ส.ค.) นายสมพงษ์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการชุมนุมก็มีทั้งสองรูปแบบ เป็นทางที่ดีก็มี หรือเป็นไปทางที่ไม่ดี ก็เกิดได้ พร้อมเรียกร้องผู้มีอำนาจในรัฐบาล ต้องระมัดระวัง อย่ามองว่าคนเหล่านี้เป็นศัตรู และดูแลสถานการณ์ให้เรียบร้อยและรับฟังความคิดเห็นเป็นอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย ซึ่งมองว่าหากนายกรัฐมนตรีมานั่งฟังจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นายสมพงษ์ กล่าวถึงกรณีส.ส.เรียกรับผลประโยชน์อนุกรรมาธิการงบประมาณ และมีเสียงเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยตั้งกรรมการตรวจสอบ ว่า ยังไม่ทราบว่า เป็นส.ส.คนใด และเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยได้อย่างไร ซึ่งการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบต้องมีความชัดเจนว่าเป็นใคร ส่วนที่ระบุชื่อส.ส.ผ่านสื่อมวลชนนั้น ยังไม่เคยได้ยิน ถูกต้องหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เพราะเป็นการพูดลอย ๆ หากมีจริงต้องดำเนินการ เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงนั้นเป็นอย่างไร.-สำนักข่าวไทย