Exclusive! กก.ชุด ตร. ชงขม!เอาผิดอดีต ผบช.น.บกพร่อง 2 นาย คดี”บอส”

กรุงเทพฯ 14 ส.ค.-Exclusive! กรรมการชุดตำรวจ ชงขม!! เอาผิดอดีต ผบช.น. บกพร่อง 2 นาย คดี “บอส อยู่วิทยา” เสนอรายชื่อให้ ผบ.ตร. พิจารณา พรุ่งนี้

มีรายงานว่าพรุ่งนี้ 15 สิงหาคม 2563 กรรมการสอบสวน ชุดตำรวจ คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส” ที่มีพลตำรวจเอกศตวรรษ หิรัญบูรณะ  ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน จะเสนอรายชื่อข้าราชการตำรวจที่เข้าข่ายมีความบกพร่องในคดีของนายวรยุทธ ให้พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อลงโทษ ซึ่งมีทั้งผู้ที่บกพร่องมาก และบกพร่องน้อย


และมีรายงานว่า จากการสอบสวน ของคณะกรรมการฯ พบว่าในช่วงเวลา 3 ปี 5 เดือนนับจาก 3 กันยายน 2556  พนักงานอัยการมีหนังสือ เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับนายวรยุทธ ส่งถึงพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ จำนวน 7 ครั้ง และหนังสือเร่งรัดให้รีบส่งตัวมาดำเนินคดี จำนวน 12 ครั้ง  พนักงานอัยการมีหนังสือทวงถามไปยังผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ในขณะนั้น จำนวน  1 ครั้ง  และมีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้นอีก 2 ครั้ง เพื่อขอให้เร่งรัดออกหมายจับ ในข้อหาที่ยังไม่หมดอายุความ 4 ข้อหา ได้แก่ ขับรถชนแล้วไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน ,  ขับรถชนแล้วไม่หยุดให้การช่วยเหลือ , ขับรถชนทรัพย์สินเสียหาย และขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมขอให้รีบส่งตัวมาดำเนินคดี แต่ปรากฏว่า ในช่วงเลวา 3 ปี 5 เดือนดังกล่าว กลับไม่มีการขออนุมัติออกหมายจับ กระทั่ง 25 เมษายน 2560 นายวรยุทธ ได้เดินทางออกนอกประเทศ  ส่วนพนักงานสอบสวนไปขอออกหมายจับวันที่ 28 เมษายน 2560  หลังจากนายวรยุทธ เดินทางออกไปแล้ว 3 วัน คณะกรรมการฯ เล็งเห็นว่า หากในช่วงเวลา 3 ปี 5 เดือน ถ้าพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับ ก็มีโอกาสที่จะจับกุมนายวรยุทธ มาดำเนินคดีได้ เนื่องจากยังเป็นช่วงที่นายวรยุทธ มีการเคลื่อนไหวเดินทางเข้า-ออกประเทศ

มีรายงานด้วยว่า ข้อหาขับรถชนแล้วไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน และข้อหาขับรถชนแล้วไม่หยุดให้การช่วยเหลือ เป็น 2 ข้อหาที่มีพยานหลักฐานมั่นเหมาะเพียงพอที่จะขอออกหมายจับนายวรยุทธได้  แต่กลับไม่ดำเนินการขอออกหมายจับ จึงเป็นอีกหนึ่งข้อบกพร่อง ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาด้วย ซึ่งการพิจารณาข้อบกพร่อง ในช่วง 3 ปี 5 เดือน ของคณะกรรมการชุดตำรวจ พบนายตำรวจที่เข้าข่ายมีความบกพร่อง อาทิ


– อดีต ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2 นาย

– อดีต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5  2-3 นาย

– อดีต รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 รับผิดชอบดูแลงานสอบสวน  2-3 นาย


– อดีต ผู้กำกับการสนทองหล่อ 3-4 นาย

– อดีตรองผู้กำกับการสนทองหล่อ รับผิดชอบงานสอบสวน จำนวน  3-4 นาย

ทั้งนี้ ข้อบกพร่อง อาจมีความหนัก-เบา แตกต่างกัน นอกจากนี้ ยังมีนายตำรวจที่มีความบกพร่องในคดีนี้อีก 11 นาย ที่ประชาชนเคยชี้มูลความผิดไว้แล้ว

ล่าสุด ในรายงานคณะกรรมการสอบสวนฯ ที่มีพลตำรวจเอกศตวรรษ เป็นประธาน ได้ส่งหนังสือถึง ผบ.ตร. แล้ว โดยเสนอให้ใช้มาตรา 147 ป.วิอาญา สอบสวนดำเนินคดีข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับนายวรยุทธ ใหม่  และตามขั้น ผบ.ตร. จะทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด แจ้งถึงหลักฐานใหม่ที่ปรากฏในข้อหาดังกล่าว  เมื่ออัยการสูงสุด รับเรื่องจะพิจารณาลงความเห็นว่าหลักฐานที่ ผบ.ตร. เสนอมามีความสำคัญเพียงพอจะนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้หรือไม่  หากเห็นว่าหลักฐานมีความสำคัญเพียงพอที่จะสอบสวนเพิ่มเติมได้ อัยการสูงสุดจะมีคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้สอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็นของ ผบ.ตร. หากอัยการสูงสุดเห็นว่า พยานหลักฐานไม่สำคัญเพียงพอ การดำเนินคดีจะถือเป็นที่ยุติเท่ากับคำสั่งไม่ฟ้อง มีผลเสร็จสิ้นเด็ดขาด        ทั้งนี้ มาตรา 147 ไม่ใช่การรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่แต่เป็นการให้อำนาจสั่งสอบสวนใหม่ สอบสวนเพิ่มเติม จากพยานหลักฐานใหม่ ส่วนข้อหา เสพโคเคน เป็นอำนาจของ ผบ.ตร.ที่จะสั่งดำเนินการสอบสวนได้ทันที .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี