2 รัฐมนตรีแรงงานป้ายแดงถือฤกษ์ 07.29 น.เข้ากระทรวงวันแรก

กระทรวงแรงงาน 14 ส.ค.-“สุชาติ-นฤมล” 2 รัฐมนตรีถือฤกษ์ดี 07.29 น.เข้าลงนามรับตำแหน่งวันแรก และไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง “นฤมล”ประกาศพร้อมหนุนงานรัฐมนตรีว่าการเต็มที่ ลั่นถือเป็นโชคชะตาให้ได้กลับมากระทรวงแรงงานอีกครั้ง


นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ถือฤกษ์เวลา 07.29 น. เดินทางเข้ากระทรวงแรงงาน โดยสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ และสักการะพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร”พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” และเชิญพระพุทธรูปเข้าในห้องทำงาน ซึ่งอยู่ในชั้นเดียวกัน บริเวณชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน 15 ชั้น และมีการอุ้มพระขึ้นห้องทำงาน ลงนามในแฟ้มเอกสารรับตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการวันแรก

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีนายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับ มีกลุ่มนักการเมือง นำโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธาน วิปรัฐบาล และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ส.ส.กลุ่มตะวันออก และ ส.ส.ภาคใต้ ร่วมแสดงความยินดี


นางนฤมล กล่าวกับผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดีว่า เหมือนเป็นโชคชะตากำหนดให้ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง เพราะเคยมาช่วยงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล คสช.มาก่อน ทั้งนี้จะสนับสนุนและทำตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอย่างเต็มที่ เพราะนายกรัฐมนตรีได้ฝากความหวังไว้กับกระทรวงแรงงานไว้มาก เพราะหลังจากเหตุการณ์โควิด-19 กระทรวงแรงงานต้องเป็นกลไกสำคัญในกระทรวงเศรษฐกิจที่จะต้องช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานและนายจ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการเข้าทำงานที่กระทรวงแรงงานในวันแรกแม้จะมีการนัดหมายเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง ถือฤกษ์ในเวลาเดียวกันแต่รัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วย ได้มีการทักทายกันเพียงเล็กน้อย ก่อนที่จะไปสักการะพระพุทธสุทธิธรรมบพิตร ซึ่งรัฐมนตรีว่าการเป็นสักการะก่อนและได้แยกขึ้นรถตู้ส่วนตัว เพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงในจุดอื่นๆ ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการพร้อมคณะได้เดินเท้าไปสักการะในเวลาไล่เลี่ยกัน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง