กรุงเทพฯ 8 ส.ค.-“ เฉลิมชัย”สั่งทุกหน่วยงานดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนใน 3 จังหวัดที่ประสบอุทกภัย ย้ำให้กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด รายงานผลตลอด 24 ชั่วโมง ทันทีที่น้ำลด เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ย้ำให้ทุกหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ประสบอุทกภัยซึ่งขณะนี้มี 3 จังหวัด ได้แก่ พะเยา น่าน และร้อยเอ็ด ทั้งนี้ได้รับรายงานจากกรมชลประทานจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ส.ค.) ฝนตกหนักใน อ. เชียงคำ จ. พะเยา จนเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรเสียหายรวม 5 ตำบล 40 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 42 ครัวเรือน โครงการชลประทานพะเยาสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 5 เครื่องเพื่อร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เร่งสูบน้ำออก
ส่วนที่จ. น่าน ฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ 09.00 น. วานนี้ในอ. สองแคว วัดปริมาณน้ำฝนได้ 276.4 มิลลิเมตร (มม.) มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหมู่ที่ 4 บ. ปางส้านและหมู่ที่ 2 บ. ยอด ต. ยอด ทำให้พื้นที่เกษตรเสียหาย โครงการชลประทานน่านนำเครื่องสูบน้ำ 14 เครื่องเข้าช่วยเหลือสูบน้ำที่ท่วมขังออก
ส่วนที่จ. ร้อยเอ็ด ร่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากอิทธิพลของพายุซินลากูส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำยังในกาฬสินธุ์และร้อยเอ็ดตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 ก.ค. – 3 ส.ค. ส่งผลให้ระดับน้ำในลำน้ำยังอ. เสลภูมิสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 500 ไร่ โครงการชลประทานร้อยเอ็ดวางแนวทางบริหารจัดการน้ำ โดยตัดยอดระบายน้ำที่ในระบบออก 20 ลูกบาศ์เมตรต่อวินาทีหรือประมาณ 1.7 ล้านลูกบาศ์เมตรต่อวัน พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำฝายยางบ้านท่าลาด 5 เครื่อง แล้วผันน้ำบางส่วนเข้าไปเก็บกักไว้ตามแก้มลิงและแหล่งน้ำธรรมชาติ ปัจจุบันสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มลดลง คาดว่า ประมาณ 1-2 วัน จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะนี้ยังคงต้องเฝ้าระวัง จ. เพชรบูรณ์เนื่องจากฝนตกหนักบริเวณ อ. หล่มเก่าตั้งแต่วันที่ 1-7 ส.ค. ทำให้เกิดน้ำ ทำให้ล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำเทศบาลต. ตาลเดี่ยวและเทศบาลเมืองหล่มสัก อ.หล่มสัก สถานการณ์น้ำแม่น้ำป่าสัก ต. สักหลง ซึ่งก่อนหน้านี้ที่สถานี S.33 ระดับน้ำสูงกว่าสันฝาย โครงการชลประทานเพชรบูรณ์ประสานเทศบาลเมืองหล่มสักและเทศบาลต. เดี่ยวนำเครื่องสูบน้ำ 8 นิ้ว 2 เครื่องเร่งสูบระบายน้ำที่ล้นสันฝายออก ขณะนี้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่องจนต่ำกว่าจนอยู่ในลำน้ำแล้ว
“สั่งการให้อธิบกรมชลประทานทำหนังสือเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่า จะมีฝนตกหนักต่อเนื่องจนถึงวันที่ 9 ส.ค. เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง หากมีน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังต้องเร่งคลี่คลายสถานการณ์ รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ต้องเข้าช่วยเหลือ โดยรายงานผลตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรด่วนที่สุด” นายเฉลิมชัยกล่าว