ททท.3 ก.ค..-3หน่วยงานผนึกกำลัง”เที่ยวปันสุข” ฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และนายพยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม “เที่ยวปันสุข” ที่ประกอบด้วยแพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กำลังใจ”
สำหรับแพ็กเกจ”เราเที่ยวด้วยกัน” รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายโรงแรมที่พักให้ในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ในอัตราร้อยละ 40 ของค่าที่พัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน // รับ E-Voucher อีกคืนละ 600 บาทใช้จ่ายเป็นค่าอาหารและค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะร่วมจ่ายเช่นกัน ในอัตราร้อยละ 40 // ส่วนสายการบินเมื่อชำระค่าบัตรโดยสารแล้ว รัฐบาลคืนเงินให้กลับไปร้อยละ 40 แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อที่นั่ง
ส่วนแพ็กเกจ“กำลังใจ” คือการขอบคุณอสม. / อสส. และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เที่ยวในประเทศ 2 วัน 1 คืน คนละไม่เกิน 2,000 บาท
แพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” อยู่ในกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท และแพ็กเกจ “กำลังใจ” วงเงิน 2,400 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2563 โดยทั้งสองแพ็กเกจสามารถใช้สิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.เที่ยวปันสุข.ไทย และ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
โดยผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่บัดนี้ ส่วนประชาชนทั่วไปเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 15 กรกฎาคม นี้
ส่วนแพ็กเกจ”กำลังใจ” จะเปิดให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวลงทะเบียนผ่าน www.เที่ยวปันสุข.ไทย ในวันที่ 10 กรกฎาคม สำหรับ อสม.,อสส., และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. สามารถเข้าไปลงทะเบียนในวันที่ 25 กรกฎาคม และท่องเที่ยวได้ในวันที่ 30 กรกฎาคม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการบริโภค และทำให้เกิดการจ้างงานในภาคธุรกิจนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร
คุณสมบัติของประชาชนที่จะลงทะเบียนรับสิทธิ ต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปี ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน มีบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือ โดยขอย้ำว่าต้องใช้สิทธิในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง แนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง มาเตรียมไว้ ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เชื่อมั่นว่าจะช่วยเร่งการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้กลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

