ทำเนียบฯ 24 มิ.ย.-เอกอัครราชทูตสวีเดนฯ เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ ชื่นชมไทยในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พร้อมกระชับความร่วมมือฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกันภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายสตัฟฟาน แฮร์สเตริม (H.E. Mr. Staffan Herrstrรถm) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดนฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง เป็นส่วนหนึ่งในการธำรงความสัมพันธ์ทวิภาคีไทยและสวีเดนที่ใกล้ชิดราบรื่นยาวนานถึง 152 ปี โดยมีความสัมพันธ์ระดับพระราชวงศ์เป็นพื้นฐาน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันพร้อมสานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านเอกอัครราชทูตสวีเดนฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการทำงานตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ชื่นชมไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ มีวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว พร้อมหวังว่าไทยและสวีเดนจะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษาระหว่างกัน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า เอกอัครราชทูตสวีเดนฯ ยังชื่นชมความสำเร็จของไทยในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจและแสดงความเชื่อมั่นในแนวทางของรัฐบาลสวีเดนในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 พร้อมหวังว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ไทยและสวีเดนจะกระชับความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งในด้านการลงทุน การท่องเที่ยว และสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในประเด็นเกี่ยวกับการบริหารสถานการณ์โควิด-19 และให้ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โอกาสนี้ ทั้งสองได้หารือในประเด็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เพื่อฟื้นฟูภายหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่มีศักยภาพสำคัญของนักลงทุนชาวสวีเดน พร้อมเชิญชวนให้ภาคเอกชนของสวีเดนขยายการลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ในสาขาที่สวีเดนมีศักยภาพ อาทิ เศรษฐกิจหมุนเวียน และการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งไทยต้องการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์จากสวีเดน.-สำนักข่าวไทย