ส.ส.ก้าวไกล ชี้จัดเลือกตั้งท้องถิ่นมีงบประมาณประจำปีอยู่แล้ว

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.-ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ชี้จัดเลือกตั้งท้องถิ่นมีงบประมาณประจำปีอยู่แล้ว หลังรัฐบาลอ้างอาจต้องเลื่อน เพราะนำเงินไปช่วยโควิด-19 เตรียมเชิญนายกฯ แจง กมธ.พัฒนาการเมืองฯ 17 มิ.ย.นี้


นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นอาจจะมีการเลื่อนไปจัดในปีหน้า เนื่องจากความไม่พร้อมเรื่องงบประมาณ ที่นำไปจัดสรรช่วยเเก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ว่า ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนรวมของประชาชน สภาผู้เเทนราษฎร เห็นว่าเหตุผลดังกล่าวไม่สามารถยอมรับได้ เนื่องจากเราทราบอย่างเเน่ชัดว่าการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น  มีการจัดสรรงบประจำปีอยู่เเล้ว ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เเละองค์กรบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีการเตรียมความพร้อมมาโดยตลอด รวมทั้งงบประมาณที่นำมาเเก้ไขสถานการณ์โควิด -19 รัฐบาลได้กู้เงินจากการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้เเทนราษฎร เเละวุฒิสภา โดยประกาศใช้เป็นกฎหมายเรียบร้อยเเล้ว อีกทั้งยังมีการโอนงบจากของหน่วยงานราชการ ในการออก ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณของรัฐบาล ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับประเด็นในเรื่องนี้

“การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่ควรไปผูกกับความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ถ้าคณะรัฐมนตรีซึ่งมีปัญหามากในขณะนี้ เป็นเหตุให้คณะรัฐมนตรีไม่จัดสรรให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น เรื่องนี้เป็นเหตุที่ต้องตั้งคำถามว่า ทำไมประชาชนต้องถูกละเมิดสิทธิ์ เพียงความไม่พร้อมของคณะรัฐมนตรี ที่จริงเเล้วการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ควรจะเป็นความเห็นชอบของรัฐมนตรีหรือไม่ หรือจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามวาระที่มันควรจะเป็น” นายปดิพัทธ์ กล่าว


นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ได้มีโอกาสเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น กกต. กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มาชี้เเจงเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ทั้งการเตรียมพร้อม การจัดสรรงบประมาณ การฝึกอบรม ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมเรียบร้อยเเล้ว

“ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับมติของคณะรัฐมนตรีเพียงอย่างเดียวในการที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าหากรัฐมนตรีไม่ให้มีการเลือกตั้ง ประเทศไทยจะไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่นอย่างนั้นหรือ จากประเด็นนี้ส่งผลไปถึงทุกภูมิภาคที่จะขาดผู้นำในการบริหาร หรืออาจจะบริหารได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากไม่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น มาตั้งเเต่คณะรัฐประหาร 2557 ซึ่งงบประมาณมหาศาล โดยเฉพาะงบฟื้นฟูประเทศจะถูกพัฒนาลงไป เเต่เรามีปัญหาในการใช้งบประมาณเหล่านี้ เนื่องจากไปผูกโยงกับเเค่ส่วนราชการเท่านั้น เเต่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน คือ ในส่วนของผู้นำท้องถิ่น ดังนั้นบุคคลที่จะให้คำตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งกรรมาธิการฯ จะเชิญนายกรัฐมนตรี เข้าชี้เเจงต่อ กมธ.พัฒนาการเมือง ในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ เพื่อไขความกระจ่างแก่ประชาชน” นายปดิพัทธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ