สธ.5 มิ.ย.“แอลกอฮอล์วอช” จี้ สธ.จัดหนัก เพจชวนเมาขายเหล้าเบียร์ออนไลน์ ส่งดิลิเวอร์รี่ถึงบ้าน ระบาดหนักช่วงโควิด ชงออกอนุบัญญัติห้ามขายออนไลน์ เหตุเด็กเยาวชนเข้าถึงง่าย
นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) และเครือข่าย ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรียกร้องให้ออกประกาศกำหนดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในลักษณะออนไลน์ หรือ เดลิเวอรี่ ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 30(6) เนื่องจากเป็นการมอมเมาเด็ก เยาวชน ประชาชน ให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย ไร้ข้อจำกัดเรื่องอายุ และเวลา มุ่งหวังเพียงรายได้ทางธุรกิจ ไม่สนกฎหมาย ทั้งนี้เครือข่ายฯ พร้อมนำหลักฐานมามอบให้กระทรวง
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทุกภาคส่วนช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง เพื่อไม่ให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ เพื่อลดแหล่งมั่วสุมของประชาชน เพื่อลดการติดเชื้อ แต่เหตุใด กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงหาช่องทางหลบเลี่ยงกฎหมาย ไม่ให้ความร่วมมือ ทำการตลาดขายเหล้าเบียร์ในรูปแบบออนไลน์ แฝงโฆษณาทั้งทางตรงและทางอ้อม จากการเก็บข้อมูลช่วงโควิด พบว่า ธุรกิจเหล้าเบียร์แทบทุกค่ายรุกทำการตลาดส่งเสริมการขายอย่างหนัก ตามเพจออนไลน์ เดลิเวอร์รี่ส่งตรงถึงบ้าน แม้จะทำเหมือนมีการตรวจสอบอายุผู้ซื้อ แต่ในความเป็นจริง ผู้ซื้อที่อาจเป็นเด็กสามารถใช้เบอร์โทรปลอม ก็ซื้อได้แล้ว จุดนี้น่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะเด็กและเยาวชนจะเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้มากขึ้นแน่นอน
ด้าน นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา (Alcohol Watch) กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกัน เด็กเยาวชนและประชาชน จากปัจจัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายฯ จึงขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอ ดังนี้ 1. ขอให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับเพจ เว็บไซต์ต่างๆ ที่มีการโฆษณา ทำตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางออนไลน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม 2.เพื่อป้องกันการตีความเข้าข้างตัวเองเพื่อผลประโยชน์ในทางธุรกิจ ขอให้เร่งออกมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีหรือลักษณะการขายแบบออนไลน์ เป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี อาศัยอำนาจตาม พระราชบัญญัติควบคุมแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 30 (6) 3.ขอคัดค้านความพยายามครั้งล่าสุดของสมาพันธ์ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายสุราแห่งประเทศไทยที่กำลังล่ารายชื่อกดดันให้มีการยกเลิกมาตรา 32 ของพระราชบัญญัติควบคุมแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เพียงเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ และขอเรียกร้องให้กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาได้รับผิดชอบสังคมในการลดผลกระทบจากนำเมาอย่างไรบ้าง และได้ทำการตลาดภายใต้กรอบของกฎหมายอย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ และ4. เครือข่ายฯพร้อมที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการเฝ้าระวัง การกระทำที่ผิดกฎหมายของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทุกรูปแบบ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยหวังว่าข้อเสนอดังกล่าว จะช่วยป้องกันการเข้าถึงของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อเด็กเยาวชน และลดช่องว่างทางกฎหมาย ที่ทำให้เกิดการตีความเข้าข้างตัวเองของฝ่ายธุรกิจและเป็นปัญหาในการบังคับใช้ และขอเป็นกำลังใจให้รมว..สธและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเพื่อคุ้มครองสุขภาพของคนไทย.-สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2020/06/1591358115507.jpg)
![](https://imgs.mcot.net/images//2020/06/1591358200551.jpg)