กรุงเทพฯ 29 พ.ค. – “มนัญญา” รมช.เกษตรฯ เร่งสร้างความเข้าใจเกษตรกร หลังวันที่ 1 มิถุนายน ต้องเลิกใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ระบุเตรียมมาตรการรองรับและช่วยเหลือเกษตรกรไว้แล้ว
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันที่ 1 มิถุนายนจะไปเยี่ยมเกษตรกรจังหวัดชัยนาท เพื่อสร้างความรับรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรปลอดภัย รวมทั้งตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของสารวัตรเกษตรที่จะต้องดูแลไม่ให้มีการครอบครอง จำหน่ายสารเคมีการเกษตร 2 ชนิด ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แก่ พาราควอตและคลอร์ไพริฟอส โดยกรมวิชาการเกษตรมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการ โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรให้คำแนะนำการปฏิบัติต่อเกษตรกร โดยต้องทำด้วยความนุ่มนวลและเป็นมิตร
นางสาวมนัญญา กล่าวต่อว่า คนบางกลุ่มพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ยืนยันว่าขณะนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการรองรับไว้ทุกด้านแล้ว เช่น กระทรวงเกษตรฯ หาสารทดแทน สารชีวภัณฑ์และแมลงตัวห้ำตัวเบียนสำหรับป้องกันและกำจัดศัตรูพืช จากนั้นจะเดินทางไปพบเกษตรกรที่จังหวัดเชียงใหม่ อุบลราชธานี และอีกหลายจังหวัด ขอให้เกษตรกรมั่นใจว่ากระทรวงเกษตรฯ ไม่ทิ้งเกษตรกร
ด้านนายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการ สมาพันธ์เกษตรปลอดภัย ซึ่งเป็นผู้แทนเกษตรกร 1 ใน 11 คน ที่เป็นโจทย์ร้องหน่วยราชการที่ให้ยกเลิกใช้พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสต่อศาลปกครองกลาง โดยกล่าวว่า ยังไม่เห็นมาตรการรองรับใด ๆ ของกรมวิชาการเกษตร อีกทั้งการที่นางสาวมนัญญาระบุว่า ให้เตรียมสารทดแทน สารชีวภัณฑ์ และแมลงตัวห้ำตัวเบียนไว้นั้น เห็นว่านางสาวมนัญญาเป็นรัฐมนตรีที่ไม่เข้าใจเกษตรกร เนื่องจากสิ่งที่ให้เตรียมไว้นั้นใช้สำหรับป้องกันและกำจัดศัตรูพืช แม้ไม่ใช้คลอร์ไพริฟอส เกษตรกรก็ทราบว่าจะใช้สารใดทดแทน รวมทั้งมีภูมิปัญญาเกี่ยวกับการใช้แมลงกำจัดศัตรูพืชเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ สิ่งที่เกษตรกรเรียกร้องจนกระทั่งต้องไปขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองกลาง คือ ยังไม่มีสารใดใช้ทดแทนพาราควอตซึ่งเป็นสารป้องกันและกำจัดวัชพืช เนื่องจากสารเคมีชนิดอื่นมีราคาแพงกว่าและต้องใช้ในปริมาณที่มากกว่า ส่วนสารชีวภัณฑ์นั้น กรมวิชาการเกษตรยืนยันแล้วว่ายังไม่มีใช้สำหรับป้องกันและกำจัดวัชพืชที่มีขายในตลาดจะผสมพาราควอตหรือไกลโฟเซตลงไปแล้วอ้างว่า เป็นสารชีวภัณฑ์ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจับกุมและตรวจยึดได้บ่อยครั้ง.-สำนักข่าวไทย