สนามบินน้ำ 21 พ.ค.-ป.ป.ช.มีมติแจ้งข้อกล่าวหาอดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ดำเนินคดีอาญากรณีสร้างสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่เป็นไปตามแบบ และเป็นเหตุให้สะพานพังถล่มมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วน “วิศวกร-เอกชน” มีมูลความผิดทางอาญา ด้าน พ่อผู้เสียชีวิต ข้องใจ นายกเทศมนตรี ไม่ถูกดำเนินคดีอาญา ทั้งที่เป็นผู้รับผิดชอบ แต่ป.ป.ช.มองว่าไม่มีเจตนา
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิดทางวินัยและตามอำนาจหน้าที่ต่อนายเชษฐา ปทุมรังสี อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง กับพวก ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบกรณีก่อสร้างสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่เป็นไปตามแบบ และเป็นเหตุให้สะพานพังถล่ม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
นายนิวัติไชย กล่าวว่า โดยโครงการเป็นการประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง นายวรพจน์ นุชิต วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ และเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกผู้รับจ้าง แต่ได้ขอให้นายมนตรี เคหนาดี ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทดีไนซ์ (2009) จำกัด ซึ่งมีฐานะเป็นน้องเขย เข้าร่วมประมูลงานจ้างโดยให้การช่วยเหลือด้านเอกสาร โดยผลสรุปบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ชนะการประมูลในราคา 8,290,000 บาทและได้ทำสัญญาจ้างโครงการฯ
นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ตามสัญญาจ้างกำหนดรูปแบบให้ใช้ลวดเหล็กตีเกลียวชนิดที่รับน้ำหนักได้ 25.9 ตัน แต่นายวรพจน์กลับนำเชือกลวดเหล็กกล้า ซึ่งสามารถรับแรงดึงได้สูงสุด 14 ตันมาใช้ในการติดตั้งเมนเคเบิ้ล ซึ่งการควบคุมงานดังกล่าวเป็นการก่อสร้างไม่เป็นไปตามรูปแบบรายละเอียดในกำหนดสัญญา และได้มีการส่งมอบงาน แต่นายวรพจน์กลับปลอมผลทดสอบแรงดึงชิ้นส่วนเหล็กมารับรองวัสดุก่อสร้าง โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญา ปรากฏผ่านไป 5 เดือนมีการซ่อมแซมถึง 4 ครั้ง จนท้ายที่สุดในวันที่ 28 เมษายน 2556 ก่อนที่จะซ่อมแซมอีกครั้ง แต่สะพานดังกล่าวได้พังถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
นายนิวัติไชย กล่าวว่า โดยการกระทำของนายวรพจน์ นุชิต ในฐานะวิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ ผู้รับผิดชอบโครงการ มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ 157 ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานผู้กลุ่มงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบกับมาตรา 86 รวมถึงมาตรา 123/1 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.ปี 2452 ซึ่งมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
นายนิวัติไชย กล่าวอีกว่า สำหรับนายมนตรี เคหบดี กรรมการผู้จัดการบริษัท ดีไนซ์ (2009) จำกัด มีมูลความผิดทางอาญาฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด และฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานซึ่งเป็นผู้ควบคุมงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และ 157 ประกอบกับมาตรา 86 รวมถึงมาตรา 123/1 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป.ป.ช.ปี 2452 ส่วนนายอนุวัฒน์ วิชัยโย และนายสันติธรรม สันวนสกุลณี ในฐานะผู้ควบคุมงาน มีฐานความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และ 162 รวมถึงมาตรา 123/1 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.ปี 2452 ซึ่งมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
นายนิวัติไชย กล่าวด้วยว่า ขณะที่นายเชษฐา ในฐานะนายกเทศมนตรีที่ได้ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกและอนุมัติเบิกจ่าย ซึ่งเป็นการดำเนินการของคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยได้แจ้งดำเนินการให้ผู้รับจ้างเข้าซ่อมแซม 4 ครั้งและได้ตรวจสอบสะพานเป็นระยะ จึงไม่อาจฟังได้ว่ามีเจตนาให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดจึงไม่มีมูลความผิดทางอาญา แต่มีมูลกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนละเลยไม่ปฏิบัติตามโดยชอบตามอำนาจหน้าที่ กรณีไม่สั่งปิดสะพานดังกล่าว ปล่อยให้มีการใช้สะพานสัญจรไปมา จึงมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่งหรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาลปี 2496 มาตรา 73
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว นายอนุนาท เสือสมิง บิดาของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์สะพานถล่ม ได้เข้ามาทวงถามต่อ ป.ป.ช.ถึงความคืบหน้า ในการเอาผิดกับเจ้าพนักงานที่เป็นข้าราชการในฐานะกรรมการตรวจรับงาน ตามมาตรา 157 ด้วยกังวลว่าคดีดังกล่าวจะหมดอายุความ ก่อนที่จะเอาผิด รวมถึงการติดตามตัวนายวรพจน์ ผู้กระทำความผิดในคดีดังกล่าวที่หลบหนี และยังติดตามตัวไม่ได้ โดย ป.ป.ช.ยืนยันเร่งดำเนินตามกระบวนการของกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย