กรุงเทพฯ 13พ.ค..-กสศ. เดินหน้าโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น 2 ให้ทุนเด็กเรียนครูป้อนโรงเรียนของชุมชน 301 อัตรา กำหนดลงพื้นที่ค้นหา คัดกรองเด็ก ก.ย. นี้ ตั้งเป้าให้เป็นการปฏิรูปการศึกษาตั้งแต่ต้นน้ำ
ดร.อุดม วงษ์สิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพครู นักศึกษาครู และสถานศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ) กล่าวว่า บอร์ด กสศ. เห็นชอบแผนการทำงานโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่น 2 ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศเชิญชวนสถาบันอุดมศึกษาที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ ซึ่งสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แจ้งว่ามีอัตราครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลที่จะสามารถบรรจุเป็นครูได้รวม 301 อัตรา ในพื้นที่ 45 จังหวัด ใกล้เคียงรุ่นแรก ซึ่งจะยังคงเน้นผลิตบุคลากรครูในสาขาปฐมวัยและประถมศึกษาเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 กสศ. ได้ปรับแนวทางการทำงานทั้งการรับข้อเสนอจากสถาบันการศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการตามประกาศ โดยจะมีการเวิร์คช็อปผ่านระบบ ZOOM ร่วมกับสถานศึกษาครั้งแรกในวันที่ 22 พ.ค.นี้ จากนั้นจะพิจารณาและคัดเลือกสถาบันเข้าร่วมโครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. และเริ่มคัดเลือกเด็กในช่วง ก.ย.-ธ.ค. ซึ่งแต่ละสถาบันการศึกษาจะลงพื้นที่ค้นหา คัดกรอง เพื่อให้ได้รายชื่อเด็กที่ผ่านการคัดเลือกทั้งหมดในเดือน ม.ค. 2564
ดร.อุดม กล่าวต่อไปว่า หนึ่งในแนวคิดหลักของโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น คือการสร้างบัณฑิตครูคุณภาพพร้อมให้กลับไปสอนรุ่นน้องและพัฒนาชุมชนบ้านเกิด ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล หรือ Standalone ดังนั้นนอกจากการสอน ยังเน้นการแก้ปัญหาชุมชนด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น หากเป็นพื้นที่การเกษตร ก็จะต้องรู้จักวิธีทำการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งมหาวิทยาลัยจะต้องออกแบบการสอนให้สอดรับกับความต้องการ เมื่อต้องไปเป็นครูในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล เพราะหากต้องยุบโรงเรียนเหล่านี้ไปเด็กๆ อีกหลายคนในชุมชนก็อาจจะเสียโอกาสการเข้าถึงการศึกษา
“ กสศ. คาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นหนึ่งในการปฏิรูปการศึกษาตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การผลิตครู ที่มหาวิทยาลัยจะไม่สอนตามหลักสูตรในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป จะทำให้มหาวิทยาลัยได้ทบทวนและศึกษากระบวนการผลิตครูของตัวเองไปด้วยว่า การสร้างบัณฑิคุณภาพที่สอดรับกับความต้องการของโรงเรียนนั้นควรเป็นอย่างไร” ดร.อุดม กล่าว
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญก็คือกระบวนการค้นหาเด็กมาเรียน มหาวิทยาลัยจะทำงานเชิงรุกลงไปค้นหาเด็กถึงบ้าน ทำให้อาจารย์รู้จักเด็กๆ ตั้งแต่ยังไม่เข้าเรียน ข้อมูลจะถูกนำไปเป็นองค์ประกอบปรับกระบวนการเรียนการสอน และหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัย อีกด้านหนึ่งก็จะทำให้ไม่เกิดการผลิตครูที่ล้นเกินความต้องการ เพราะหากผลิตครูตามอัตราที่ต้องการคือนำอุปสงค์มาเป็นตัวตั้งว่ามีอัตราบรรจุ 301 อัตรา ก็ผลิตครูตามอัตรานี้ จะทำให้ไม่เกิดบัณฑิตครูล้นตลาด
สำหรับความคืบหน้าสำหรับโครงการครูรัก(ษ์)ถิ่นรุ่นหนึ่งนั้นได้ผ่านการประกาศรายชื่อนักเรียนที่เข้าโครงการเรียบร้อยแล้วโดยมี 11 สถาบันการศึกษาที่รับนักศึกษาเข้าเรียนในสาขาปฐมวัยและประถมศึกษา 328 คน โดยช่วงนี้จะต้องดูแลนักศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและมีการปรับวิธีการทำงานให้ได้ในช่วงนี้ และจากการสำรวจข้อมูลของนักศึกษาครูรุ่นแรก 328 คน ว่าถ้าหากมหาวิทยาลัยมีนโยบายให้เรียนออนไลน์จะมีความพร้อมแค่ไหน พบว่าในด้านสัญญาณอินเตอร์เน็ต 80% มีความพร้อม ส่วนเรื่องเครื่องมือนั้นมีความพร้อมเพียง 50 % โดยทางบอร์ด กสศ. ได้เห็นชอบในหลักการสนับสนุนเครื่องมือเรียนรู้ที่จำเป็นแก่นักศึกษาทุน อีกด้านหนึ่งยังสนับสนุนงบประมาณให้แต่ละมหาวิทยาลัยออกแบบการเรียนการสอน เพื่อเสริมทักษะต่างๆ ได้ด้วย เช่น บางแห่งจัดเป็นกลุ่มๆ โดยใช้โรงเรียนในพื้นที่เป็นจุดเรียนรู้พร้อมไปกับการศึกษาบริบทชุมชนของตนเองไปด้วย ส่วนโครงการรุ่นที่สองมหาวิทยาลัยใดที่ศึกษาประกาศแล้วสนใจโครงการ สามารถเสนอผ่านระบบออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. นี้เป็นต้นไป
โครงการครูรัก(ษ์)ถิ่น รุ่นที่ 2 ปีการศึกษา 2564 นี้ จะขยายขอบเขตการเปิดรับสมัครสถาบันอุดมศึกษาที่สนใจเข้าร่วมเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูให้กว้างขึ้น เพื่อประโยชน์กับผู้เรียนที่ไม่ต้องเดินทางไกลจากภูมิลำเนาของตนเองมากนัก โดยพิจารณาคัดเลือกสถาบันที่อยู่ในภูมิภาคที่มีอัตราบรรจุแต่งตั้งครู ปี 2568 สำหรับโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล ที่ สพฐ.จัดสรรให้กับโครงการ ดังนั้น ในปีนี้จึงจะมีสถาบันที่สามารถสมัครเข้าร่วมการคัดเลือกเป็นสถาบันผลิตและพัฒนาครูในโครงการได้มากขึ้น ทั้งนี้ กสศ. มีกระบวนการคัดเลือกสถาบันที่จะเข้าร่วมโครงการอย่างเข้มข้นตามเกณฑ์คุณภาพ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมลงพื้นที่ รวมถึงแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้บริหารของสถาบัน เพื่อประเมินความพร้อมทั้งกายภาพ และฐานคิดที่สอดคล้องกับเป้าหมาย เพื่อค้นหา และคัดเลือก ให้ได้ผู้มีจิตใจรักอยากเป็นครู มีจิตสาธารณะที่พร้อมจะกลับไปพัฒนาชุมชนให้เกิดความยั่งยืน และได้ครูที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของชุมชน สอดคล้องกับภารกิจหลักของ กสศ. คือ การสร้างโอกาสให้กับเด็กๆ ที่มีความขาดแคลนโอกาสและทุนทรัพย์ สำหรับสถาบันที่สนใจเข้าร่วมสามารถลงทะเบียนได้ตามลิงค์ https://forms.gle/WWrk6W7uJr5qi7sn9 หรือ Scan QR Code ( 1 มหาวิทยาลัยลงทะเบียนได้สถาบันละ 2 ท่าน) .-สำนักข่าวไทย